นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลประกอบการของ Private Banking มีการเติบโตในทุกด้าน ทั้งสินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การบริหารไม่รวมผลิตภัณฑ์เงินฝากและตั๋วแลกเงิน (Investable Asset Under Management) มีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท เติบโตร่วม 60% โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนรวมมีการเติบโตกว่า 40% ขณะที่การลงทุนในหุ้นกู้เติบโตกว่า 100%
นอกจากนี้ฐานลูกค้าระดับสูงสุดของธนาคาร ฯ ยังมีการเติบโตจากปีก่อนร่วม 20% สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการให้คำปรึกษา และคำแนะนำจากทีมงานที่ปรึกษาการบริหารทรัพย์ส่วนบุคคล (RM) ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้เชี่ยวชาญในเครือธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งการมอบเอกสิทธิ์เหนือระดับหลากหลายรูปแบบที่ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการได้ตามความต้องการส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดตัวบริการ Private Banking อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2551 ซึ่งบริการให้คำปรึกษา และบริการบริหารทรัพย์ส่วนบุคคลแก่ลูกค้าระดับสูงสุดของธนาคาร
"ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาพบว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนมีความผันผวนอย่างยิ่ง แต่ผลประกอบการของ Private Banking ธนาคารกสิกรไทยกลับมีการเติบโตในทุกด้าน" นายทวิช กล่าว
ด้านนางพัชรินทร์ วงศ์ศิริเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าวว่า ธนาคารได้รับรางวัล Best Private Wealth Management House in Thailand 2009 จากนิตยสาร Alpha Southeast Asia เป็นการยืนยันถึงคุณภาพการบริหารของธุรกิจการบริหารทรัพย์ส่วนบุคคลของกลุ่มลูกค้า High Net Worth ของธนาคาร โดยรางวัลนี้พิจารณาจากฐานลูกค้าและสินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การบริหารที่ขยายเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงประสิทธิภาพการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดของที่ปรึกษาการบริหารทรัพย์ส่วนบุคคลมืออาชีพ และการรายงานประสบการณ์ประทับใจในการบริการของ Private Banking จากลูกค้า อีกทั้งความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีนำเสนออย่างครบครันตามความต้องการของลูกค้า