(เพิ่มเติม) DRTเพิ่มเป้ารายได้ปี 52เปิดโชว์รูมเจาะกลุ่มลูกค้าในเมือง-ออกสินค้าใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 28, 2009 13:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. กระเบื้องหลังคาตราเพชร(DRT)ปรับเพิ่มเป้ายอดขายในปี 52 เป็น 2.5 พันล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 2.4 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำยอดขายน่าพอใจ เผยแผนงานครึ่งปีหลังสั่งซื้อเครื่องจักรกว่า 465 ล้านบาทผลิตสินค้าใหม่ออกวางตลาดต้นปี 53 ในสินค้ากลุ่มแผ่นผนัง ไม้ฝา ไม้พื้น ที่เป็นงานโครงการอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม พร้อมตั้งโชว์รูมใจกลางกทม.เจาะไลฟ์สไตล์ลูกค้าในเมือง และเตรียมตั้งศูนย์กระจายสินค้าในภาคใต้เพิ่มอีก 1 แห่ง

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า จากการประเมินยอดขายในครึ่งปีแรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากเดิมที่เคยประเมินว่าอาจจะชะลอจากปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ในมือในครึ่งปีหลัง จึงทำให้บริษัทปรับเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในส่วนของกำไรขั้นต้น ในปีนี้มีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30% เนื่องจากบริษัทใช้กำลังการผลิตในบางสินค้า 100% รวมถึงการรุกตลาดเชิงรุก โดยการเข้ารับออเดอร์จากลูกค้าโดยตรงและราคาวัตถุดิบก็ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น

สำหรับกลยุทธ์และแผนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะออกสินค้าใหม่ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 465 ล้านบาททำสัญญาซื้อเครื่องจักรสายการผลิต NT9 กับบริษัท MFL Faserzementanlagen Ges.m.b.H แห่งประเทศออสเตรีย โดยสายการผลิต NT9 จะผลิตแผ่นผนัง ไม้ฝา ไม้พื้น และไม้สังเคราะห์ต่างๆ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ช่วงต้นปี 2553 กำลังผลิต 50,000 ตัน/ปี เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นงานโครงการอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้กับบริษัทฯ นอกเหนือจากกลุ่มสินค้ากระเบื้องหลังคา

บริษัทฯ ยังได้เปิดโชว์รูมสินค้า ภายใต้ชื่อ “To be a Better Choice" บนพื้นที่ 500 ตารางเมตร ย่านซอยอารีสัมพันธ์ใจกลางกทม. เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าในเมือง โดยโชว์รูมดังกล่าวจะเน้นนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการ เน้นสินค้าที่มีเอกลักษณ์และมีความทันสมัย

“บริษัทฯ ใช้งบลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท ในการก่อสร้างทั้งในส่วนของการสร้างสำนักงานและโชว์รูม ทั้งนี้การเปิดโชว์รูม ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญ เนื่องจากเรากำลังจะรุกเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าในเมือง ซึ่งบริษัทฯ มองว่าเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโตสูง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มีศักยภาพไม่แพ้คู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดนี้ ทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้า ความเชี่ยวชาญของทีมงาน ตลอดจนการบริการลูกค้า ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการเดินหน้ารุกตลาดทุกกลุ่ม ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายในอนาคตให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง" นายสาธิต กล่าว

ทั้งนี้ จากการที่บริษัทจะทำการเพิ่มสายการผลิตที่ 9 ที่รองรับในการผลิตแผ่นผนัง ไม้ฝา และ ไม้พื้นจะทำให้ผลักดันยอดขายปรับเพิ่มขึ้น 10-15% ในปี 53 โดยสายการผลิตดังกล่าวจะเริ่มผลิตขายเองช่วงกลางเดือน ก.พ.53 และจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้บางส่วนทันทีในไตรมาส 1/53 ซึ่งสายการผลิตดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการผนังขนาดหนามากขึ้น โดยเฉพาะอาคารสูง คอนโดมิเนียมและโครงการต่างๆ

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่ง ที่จ. สุราษฎร์ธานี จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 แห่ง ที่จ.ขอนแก่น แต่ทั้งนี้คงจะต้องศึกษาถึงผลดี ผลเสียว่าจะคุ้มทุนหรือไม่

"เท่าที่ประเมินดูตอนนี้ ตัวไลขครึ่งแรกถือว่าผ่านการทดสอบเกินกว่าที่เราตั้งใจไว้ และลูกค้าก็ยังมีความต้องการอยู่มาก เท่าที่เราเห็นได้จากดีลเลอร์ ดังนั้นในครึ่งปีหลังเราก็น่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แม้ปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเรา" นายสาธิต กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและการบริการ และสร้างความแตกต่างให้เหนือจากคู่แข่ง โดยมีทีมตัวแทนของบริษัทฯ จากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปให้ความรู้ อบรม สาธิตการทำงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ DRT ได้วางไว้ อาทิเช่น การจัดฝึกอบรมการติดตั้ง ให้แก่ช่างท้องถิ่น การเข้าไปช่วยจัดหน้าร้านและกองเก็บสินค้า การอบรมพนักงานขาย ทั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมไปถึงร้านค้าช่วง ที่บริษัทฯ ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อเป็นโอกาสในการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ที่ได้ตั้งเป้าจะเพิ่มอีกอย่างน้อย 100 รายภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 600 ราย



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ