ธนาคารเกียรตินาคิน(KK)ชะลอแผนออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาทหลังจากต้นทุนการระดมทุนด้วยหุ้นกู้ขยับสูงขึ้น โดยหันมาเน้นการระดมเงินฝากแทน แต่อาจจะหยิบยกแผนออกหุ้นกู้มาพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งในช่วงปลายปี พร้อมทั้งคงเป้าการขยายตัวของสินเชื่อในปี 52 ไว้ที่ 0-5% หลังจากครึ่งปีแรกสินเชื่อโตไปเพียง 2% และคาดว่ายังจะทรงตัวในครึ่งปีหลัง ขณะที่เชื่อว่าจะคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ไว้ได้ที่ 7% เท่ากับปีก่อน
น.ส.ฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด KK กล่าวว่า ขณะนี้ ธนาคารยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ เนื่องจากต้นทุนการเงินสูงขึ้น โดยหุ้นกู้อันดับเครดิต AAA จะมีต้นทุนขึ้นมาราว 4% หลังจากที่รัฐบาลออกพันธบัตรไทยเข้มแข็ง ธนาคารจึงได้หันมาระดมเงินฝากด้วยการออกโปรโมชั่น KK Maximum ที่เป็นเงินฝากระยะยาว 4 ปี ให้ดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 3.75%ต่อปี ซึ่งในช่วง 5 วันแรก ปรากฎมียอดเงินฝากเข้ามาราว 3 พันล้านบาท จากที่ตั้งเป้า 7 พันล้านบาทภายในสิ้นก.ค.นี้
"เราออกเงินฝาก 4 ปี ทดแทนการออกหุ้นกู้ ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า ขณะเดียวกัน ระยะเวลาก็ match กับเงินกู้"น.ส.ฐิตินันท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีธนาคารจะพิจารณาการออกหุ้นกู้อีกครั้ง หากต้นทุนการเงินต่ำลงมา ทั้งนี้โดยปกติ ธนาคารจะออกหุ้น 4-5 พันล้านบาทในแต่ละปี โดยเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน
นอกจากนี้ ธนาคารจะเพิ่มสาขาใหม่อีก 4 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ วิภาวดี , รามอินทรา, สุขสวัสดิ์ และ สมุทรปราการ เพื่อมุ่งระดมเงินฝาก จากช่วงครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 3 สาขา รวมสิ้นปี ธนาคารจะมี 44 สาขา
ณ มิ.ย. 52 ธนาคารมีจำนวนผู้ฝาก 3.5 หมื่นบัญชี จากสิ้นปี 51 มีจำนวน 2.4 หมื่นบัญชี และปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่ม 100% เป็น 4.8 หมื่นบัญชี และยังเน้นขยายฐานเงินฝากลูกค้าไปสู่รายย่อย เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ โดยครึ่งปีแรก เงินฝากขยายตัว 7%
*หวั่น H2/52 NPLจะดีดตัว ตั้งเป้าคุมไม่เกินปีก่อน
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ KK คาดว่า สิ้นปี 52 NPL จะอยู่ระดับประมาณ 7% หรือประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งจำนวนใกล่เคียงกับปีก่อน จากสิ้นมิ.ย.52 ที่มี NPL จำนวน 6.6 พันล้นบาท หรือ 6.99% ขณะที่การขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ยังคงเป้าที่ 0-5% จากครึ่งปีแรก ขยายตัว 2%
"ทั้งปี เราคิดว่า NPL จะอยูที่ 7% ลบไม่มาก หรือบวกก็ไม่มาก อาจใกล้เคียงกับเมื่อปลายปี 51 ที่มี 7 พันล้านบาท ซึ่งก็ต่ำกว่าในปี 50 ที่มี 8.2 พันล้านบาท...NPLในครึ่งปีหลังยังไม่น่าไว้วางใจ ดูแย่กวว่าครึ่งปีแรก NPL จะ delay effect "นายธวัชไชย กล่าว
และคาดว่าในครึ่งหลังปีนี้ แนวโน้มธุรกิจสินเชื่อในภาพรวมอาจจะไม่เพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับบางธุรกิจ และ การ Refinance ด้วย จากช่วงครึ่งปีแรกที่ภาพรวมมีอัตราติดลบ 3% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ติดลบ 7% โดยคาดว่าอัตราดอกเบี่ยในช่วงครึ่งปีหลังทรงตัว
"ส่วนใหญ่ธุรกิจเราเป็นเช่าซื้อรถยนต์ เท่าที่เราดูเช่าซื้อก็มีความหวังนิดๆในครึ่งปีหลัง trend น่าจะดีขึ้น ก็คิดว่าจะโตได้เล็กน้อย แต่ก็เน้นคุณภาพในการเติบโต"นายธวัชไชย กล่าว
ในเดือน ก.ค.52 ยอดเช่าซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสองเพิ่มขึ้นมาจากสื้นมิ.ย. 52 ธนาคารพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ มี NPL 2.2% ต่ำกว่า สิ้น มิ.ย. 51 ที่อยู่ระดับ 2.5% ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรอง 100%สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อ ส่วนสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตั้งสำรองไว้ที่ 20%
นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าธนาคารจะขายสินทรัพย์ที่รอขาย(NPA)ในปีนี้ จำนวน 3 พันล้านบาทตามที่วางแผนไว้ จากครึ่งปีแรกขายได้แล้ว จำนวน 958 ล้านบาท โดยอาจจะมีส่วนลดราคา
ด้านนายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ KK คาดว่าทั้งปี 52 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ไม่ต่ำกว่าสิ้นมิ.ย. 52 ที่อยู่ระดับ 5.2% สูงกว่าสิ้นปี 51 ที่ระดับ 4.6% และ 4.9% ณ สิ้น มี.ค.52 เนื่องจากต้นทุนเงินฝากลดลง โดยส่วนหนึ่จากการระดมเงินฝากระยะยาว ขณะทีธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อได้ในระยแวลาเดียวกัน โดยสินเชื่อเช่าซื้อมีสัดส่วน 2 ใน 3 ของพอร์ต เชื่อว่าครึ่งปีหลังส่วนต่างดอกเบี้ยหรือสเปรดจะไม่หวือหวา