แหล่งข่าว บมจ.เอส.อี.ซี.ซี.ออโต้เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส(SECC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันพรุ่งนี้จะมีขึ้นตามกำหนดแน่นอน เพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่พลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาได้ในปี 53 หลังจากเผชิญปัญหาหนักจากอดีตผู้บริหาร แนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะนำเข้ารถยนต์หรูมาจำหน่ายเหมือนเดิม ขอเวลา 3 ปีทวงแชมป์คืน ซึ่งคงต้องหาทุนเพิ่มเพื่อทำธุรกิจและชำระหนี้
ทั้งนี้ วาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันพรุ่งนี้มีเพียงวาระเดียว คือ การเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ให้ครบตามกำหนด หลังจากที่บริษัทเหลือกรรมการเพียง 3 คน โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเลือกผู้ถือหุ้นด้วยกันเองขึ้นไปทำหน้าที่ประธานการประชุม คู่กับเลขานุการบริษัท คือ นายอธิคม สุระสุนทร
"การประชุมผู้ถือหุ้นในวันพรุ่งนี้ไม่มีปัญหาแน่ ไม่มีการเลื่อน เพราะที่จะประชุมพรุ่งนี้มีเพียงวาระเดียวคือเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ เพียงแต่ตอนนี้ SECC ไม่มีกรรมการเหลืออยู่เลย เพราะกรรมการรวมถึงที่ปรึกษาการเงินและคณะกรรมการตรวจสอบลาออกไปหมดแล้ว"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า หลังจากได้คณะกรรมการชุดใหม่แล้วก็คงต้องให้เวลาในการศึกษาข้อมูลตัวบริษัท มาระดมความคิดที่จะทำให้ SECC กลับมาดำเนินธุรกิจต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรูมาจำหน่าย เพราะเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความชำนาญและดำเนินการได้ทันที ซึ่งขณะนี้แผนงานด้านการตลาดขณะนี้เสร็จสมบูรณ์พร้อมไว้แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องมีการระดมทุนก้อนหนึ่ง อาจจะมาจากการเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรืออาจเป็นการลงทุนเพิ่มของบรรดาผู้ถือหุ้นเดิม
"เป็นเรื่องที่กรรมการจะไปเจรจา ซึ่งเท่าที่ทราบส่วนใหญ่ก็ยินดีลงทุนเพิ่มเพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกรรมต่อไปได้ ตอนนี้ SECC ต้องการ Cash Flow เป็นจำนวนที่รับได้ เพียงพอต่อการจะมาเขียนคิ้วทาปากใหม่ หลักๆ 4 อย่าง คือ เป็นทุนนำเข้ารถยนต์มาขายเหมือนที่ SECC เคยทำในอดีต, ใช้หนี้ที่จำเป็นต่อธุรกิจ เช่น ซัพพลายเออร์อะไหล่ ซัพพลายเออร์น้ำมันเครื่อง, ปรับโฉมใหม่ เช่น เปลี่ยนชื่อ ทำสีสันโลโก้ใหม่ และยุทธศาสตร์ทางด้านการตลาดที่บริษัทไม่ได้ทำมานานมากแล้ว"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าลูกค้า 65% ยังไม่ทราบว่าเรายังเปิดดำเนินการในส่วนของศูนย์ซ่อมอยู่ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งให้ทราบแล้ว ปรากฎว่า 80% ของลูกค้าเดิมยังให้ความไว้วางใจนำรถกลับมาซ่อมกับบริษัท และยิ่งมีการทำโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ตรวจเช็คฟรี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนฟรี มีบริการฉุกเฉิน 24 ชม.ก็ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่ม
นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าที่แสดงความสนใจจะซื้อรถจาก SECC ต่อไป โดยให้เหตุผลว่าตราบใด SECC ที่ซ่อมรถได้ก็ยินดีที่จะซื้อรถจาก SECC แต่ขณะนี้บริษัทยังติดปัญหาที่ว่าไม่มีสถาบันการเงินค้ำประกันไฟแนนซ์ และไม่มีเงินทุนที่จะนำเข้ารถมาจำหน่าย เพราะสภาพคล่องยังไม่กลับคืนมา
"ผมก็จัดทำแผนงานเตรียมที่จะพลิกฟื้นให้บริษัทกลับมาดำเนินธุรกรรมเต็มรูปแบบ โดยเชื่อว่าภายใน 3 ปี นับจากเริ่มกลับมาทำธุรกิจเหมือนเดิมคือปี 53 SECC จะกลับมาเป็นผู้นำตลาดทางด้านยอดขายรถเหมือนในอดีต ส่วนเรื่องกู้ชื่อเสียงภาพลักษณ์ของ SECC กลับมาคงต้องใช้เวลาพอสมควร"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งจากอดีตผู้บริหาร พบว่า มูลค่าความเสียหายประมาณ 3-4 พันล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเรื่องส่วนตัว 90% ส่วนที่บริษัทจะต้องรับผิดชอบคือหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินสัดส่วนแค่ 10% เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหากบริษัทสามารถขายรถได้เดือนละ 100 คันๆ ละ 3 ล้านบาทเหมือนในอดีตก็คงไม่มีปัญหาในการเจรจากับสถาบันการเงินแน่นอน