บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมฉบับก่อนสอบทานโดย ผู้สอบบัญชี ไตรมาสที่ 2 ปี 2552 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,056.58 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.42 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานงวดเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 1,265.71 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.87 บาท) ปรากฏว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 790.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.48
โดยมีสาเหตุหลักรายได้ค่าขายไฟฟ้า ในไตรมาส 2/52 รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment : AP) จำนวน 3,371.89 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2551 (2,735.67 ล้านบาท) เป็นจำนวน 636.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.26 สาเหตุหลักเนื่องจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายในปี 2552 สูงกว่าปี 2551 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
รวมทั้งในไตรมาสนี้โรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลทำให้รายได้ค่าความพร้อมจ่ายสูงกว่าปีก่อนเป็นจำนวน 431.78 ล้านบาท และ 204.44 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้า (Energy Payment : EP) จำนวน 5,529.19 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2551 (7,577.72 ล้านบาท) เป็นจำนวน 2,048.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 27.03 สาเหตุหลักเนื่องจากในระหว่างไตรมาสที่ 2 ปี 2552 โรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบ (Reserve Shutdown) จึงทำให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของ โรงไฟฟ้าต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน และส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.40
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้ารวมทั้งสิ้น จำนวน 606.18 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2551 (64.59 ล้านบาท) เป็นจำนวน 541.59 ล้านบาท หรือ 8.39 เท่า โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานของกิจการร่วมค้า 2 แห่ง คือ บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด และ บริษัท ไตร เอนเนอจี้ จำกัด