นายประเสริฐ ธีรนาคนาท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานกลั่นกรองสินเชื่อ ธนาคารกรุงไทย (KTB)เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกปี 52 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าในภาคธุรกิจต่างๆ แล้ว จำนวน 160,000 ล้านบาท โดยธนาคารมีมาตรฐานการกลั่นกรองสินเชื่อซึ่งไม่ได้เข้มงวดขึ้น แม้ว่าประมาณการเงินสดของลูกค้าบางรายอ่อนลงจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ธนาคารได้ผ่อนปรนให้สำหรับลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาว
ส่วนครึ่งปีหลัง เชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว การตกงานในสหรัฐอเมริกาเริ่มลดลง สถาบันการเงินเริ่มแข็งแรงขึ้น ขณะที่ประเทศจีน มีการปรับนโยบายการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ ด้วยการนำเงินสำรองไปซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น วัสดุก่อสร้าง ทำให้เกิดความต้องการในตลาดโลก กลุ่มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์เริ่มมีการผลิตใหม่ ทดแทนสต็อกซึ่งเริ่มลดลง รวมทั้งธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารได้เริ่มนำ Business & Credit Model มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อของทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อรองรับการพิจารณาสินเชื่อที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเป็น Model ที่ชี้ถึงความเสี่ยงของธุรกิจ การเปรียบเทียบตัวเลขทางการเงินตามขนาดของธุรกิจ จุดอ่อน จุดแข็ง รวมทั้งอัตราส่วนทางการเงินโดยเฉลี่ยของแต่ละธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้ใช้เวลาในการกลั่นกรองสินเชื่อลูกค้าแต่ละราย เพื่อปิดความเสี่ยง ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน