บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO)คาดจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวดปี 52 สูงกว่าปีก่อนที่จ่ายอัตรา 0.205 บาท/หุ้น เนื่องจากในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนจะใช้เงินลงทุน ขณะที่คาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 1/52 และมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง มุ่งหน้าลุยรับงานประเทศเพื่อนบ้านภายใต้โครงการความช่วยเหลือองค์กรระหว่างประเทศ ตอนนี้ลุ้นผลเจรจางานล็อตใหม่ในลาว การเจรจาลูกค้าญี่ปุ่นคาดได้ข้อสรุปไม่เกิน 1 เดือน
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ EPCO เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ทิศทางธุรกิจการพิมพ์ของบริษัทในครึ่งปีหลังคงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหรือเรื่องอื่นๆ เพราะปีนี้ช่วงแย่ที่สุดก็น่าจะเป็นไตรมาส 1/52 ซึ่งผ่านไปแล้ว และขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง
ในด้านรายได้ในปีนี้ตั้งเป้าใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 600 กว่าล้านบาท แต่กำไรอาจจะต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 128 ล้านบาท จากผลกระทบไตรมาส 1/52 กำไรลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนกำไรในไตรมาสที่เหลือของปีนี้น่าจะทรงตัวจากปีก่อน โดยครึ่งปีหลังงานพิมพ์ก็ยังมีเข้ามาปกติ และจะมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/52 โดยเฉพาะตำราเรียนที่ปกติจะเข้ามาช่วงปลายไตรมาส
บริษัทคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/52 จะออกมาใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไร 28.75 ล้านบาท เพราะธุรกิจกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากไตรมาส 1/52 ออกมาแย่สุด โดยกำไรลดลงมาที่ 29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 37 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/52 น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 3/51 ที่มีกำไร 29.65 ล้านบาท และไตรมาส 4/52 อาจจะดีพอๆกันกับไตรมาส 4/51
ด้านต้นทุนวัตถุดิบสำคัญคือค่ากระดาษ คาดว่าครึ่งปีหลังราคากระดาษจะสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนเราจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคาดว่ากำไรสุทธิของปีนี้อาจจะออกมาทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน
"ปีนี้รายได้ และกำไร ลดลงไตรมาสเดียวคือไตรมาส 1 ที่ลดไป...ก็ลดไปแล้ว ส่วนไตรมาส 2-3-4 ก็คงเท่าๆกับแต่ละไตรมาสของปีที่แล้ว"นายยุทธ กล่าว
อนึ่ง บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ยังคงคาดรายได้ของ EPCO ปีนี้ที่ 610.94 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิที่ 136.46 ล้านบาท และคาดว่าจะจ่ายปันผลทั้งปีที่ 0.25 บาท/หุ้น ซึ่งให้ Yield จากปันผลในอัตราที่สูง
*รอผลประมูลงานพิมพ์แบบเรียนในลาว-เจรจารับงานใหม่จากญี่ปุ่น
นายยุทธ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนงานต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% จากเดิม 2-3% โดยอัตรากำไรขั้นต้นแต่ละงานไม่เท่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทจะเน้นงานในประเทศเพื่อนบ้านที่มีโครงการภายใต้เงินสนับสนุนด้านการพัฒนาจาก UNICEF, World Bank และ ADB
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ในประเทศลาว คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆ นี้ เป็นงานพิมพ์แบบเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มูลค่างานประมาณ 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้งานไปแล้วในส่วนแรก เป็นแบบเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4 มูลค่ารวม 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ ต้นเดือน ส.ค.นี้ก็จะส่งมอบล็อตแรกได้ครบ
หลังจากนี้คาดว่ายังจะมีงานประมูลในประเทศลาวเข้ามาอีกเรื่อยๆ เพราะลาวได้เงินกองทุนช่วยเหลือจาก World Bank และ UNICEF รวมทั้ง ประเทศพม่าที่บริษัทก็จะเข้าร่วมประมูลงานที่อยู่ภายใต้เงินช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศดังกล่าวที่จะมีออกมาเรื่อย ๆ
นายยุทธ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีงานพิมพ์จากประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มเข้ามาคุยเช่นกัน เป็นงานสิ่งพิมพ์ โบว์ชัวร์ต่างๆ และยังไม่สรุปมูลค่างาน คาดว่าจะใช้เวลาเจรจากันประมาณ 2-3 สัปดาห์หรือ 1 เดือนจึงจะรู้ผล