บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)เตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้ปี 52 ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า จากที่ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 4-5% จากปีก่อนที่มี 1.3 หมื่นล้านาท เนื่องจากขณะนี้มีปัจจัยหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 แต่คาดว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงเทศกาล ซึ่งจะมียอดขายโตสูงสุดในรอบปี และยังจะมีการเปิดสาขาใหม่ที่ขอนแก่นด้วย
นายปริวัติ โสภาษิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงิน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ เช่น เรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009, การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ทำให้บริษัทกำหนดจะทบทวนเป้าหมายรายได้ใหม่ แต่ก็ยังคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะออกมาใกล้เคียงปีก่อน ไม่นับรวมรายการพิเศษจากการบันทึกกลับเงินสำรอง 90-100 ล้านบาท
"ตอนนี้เรากำลังจะ Revise แผนใหม่อยู่ เพราะตอนที่เราตั้งเป้าเรายังไม่มีภาวะเรื่องไข้หวัดและยังไม่มีความชัดเจนของรัฐบาล แต่ตอนนี้เริ่มชัดเจน ซึ่งเรากำลังทบทวนอยู่ ประมาณ 2 อาทิตย์ก็จะได้ตัวเลขที่ชัดเจน คือตอนนี้คาดว่าอัตราการเติบโตยอดขายน่าจะมี Growth นิดหน่อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะมี 2 สาขาใหม่เข้ามาช่วย และการปรับปรุงสาขา ช่วยทำให้ยอดขายโต"นายปริวัติ กล่าว
อนึ่ง ในปี 51 ROBINS มีกำไรสุทธิ 1,020 ล้านบาท
*เชื่อรายได้ Q2 ไม่ตกแม้เจอไข้หวัดรุม-ศก.ฟุบ
นายปริวัติ คาดว่า รายได้ในไตรมาส 2/52 จะออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 2/51 ที่มี 3 พันล้านบาท แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัว และเกิดการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ส่งผลคนเดินห้างวูบช่วงแรก แต่ขณะนี้กลับมาปกติแล้ว และในไตรมาส 2/51 บริษัทมียอดขายมากจากการเปิดขายล้างสต็อกในสาขาสีลม ทั้งนี้ งบไตรมาส 2/52 จะประกาศในวันที่ 14 ส.ค.
"ในไตรมาส 2 ยังทรงตัวจากไตรมาส 2/51 ยังไมีมี growth แต่ไม่ถึงกับติดลบในสาขาเดิม ส่วนสาขาใหม่ที่ชลบุรีเปิดปลาย พ.ค.เป็นไปตามเป้า มียอดขาย 50 ล้านบาท... ของเราก็ยังถือว่าดีกว่าเศรษฐกิจภาพรวม เพราะภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ติดลบเยอะ ยังมีเรื่องไข้หวัดอีก"นายปริวัติ กล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ไหม่ 2009 ไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก เพราะประชาชนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว ต่างกับช่วงแรกในเดือน มิ.ย.ที่ยังตื่นตระหนกทำให้มีผลกระทบบ้าง
"เรามีมาตรการทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ ตอนนี้ลูกค้าเริ่มมีความเชื่อมั่นก็กลับมาเหมือนเดิม จากเคยที่ slow ไปเมื่อเดือนมิ.ย.-ก.ค.แต่ลดลงไม่มาก ลูกค้าอาจกังวลนิดหน่อย แต่เป็นเฉพาะในสาขากรุงเทพ แต่ในต่างจังหวัดยังเฉยๆ ซึ่งพวกนี้ยอดขายยังโต 2 digit อยู่ รวมถึงสาขาที่ปรับปรุงใหม่ก็มียอดขายเพิ่มราว 2 digit ด้วย ได้แก่ แฟชั่นไอส์แลนด์, อุดรธานี และ เชียงใหม่"นายปริวัติ กล่าว
*ครึ่งปีหลังโหมทำโปรโมชั่น
นายปริวัติ กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทจะทำการตลาดในรูปแบบ Event Marketing มากขึ้น เพิ่อจะทำให้ลูกค้ากลับมาช้อปปิ้งเหมือนเดิม คิดว่าน่าจะทำให้ยอดขายดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งยอดขายเริ่มลดลงในไตรมาสที่ 4 ในปีก่อน แต่คาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโต
ส่วนงบการตลาดวางแผนใช้งบไม่ต่ำกว่า 2% ของยอดขายเป็นเป้าหมายเดิม โดยพยายามจัดสรรให้ตรงและเป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะเน้นการทำโปรโมชั่นมากขึ้น และเน้นด้าน Customer Relation Marketing(CRM) มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกได้ดีขึ้น
อีกทั้งขยายสินค้าที่สั่งผลิตและนำเข้ามากเอง ซึ่งยอดเติบโตได้อีก มีทั้งสินค้าเสื้อผ้า สินค้าของใช้ในบ้าน และ คอสเมติก จากนำเข้าเดวิด โจนส์ ของออสเตรเลีย ช่วยยอดขายดีขึ้น
"เรามีเป้าหมายว่ามาร์จิ้นจะโต 0.2% ขึ้นไป ทั้งปีเราคิดว่าทำได้ดีกว่าเป้า ถ้าเป็นกำไรปกติ น่าจะโตกว่าหรือใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ปีที่แล้วบริษัทมีรายการพิเศษทางบัญชี ประมาณ 90-100 ล้านบาท มากจาการปรับปรุงบัญชี ได้สำรองกลับมาจากการตั้งสำรองสินค้าล้าสมัย แต่คิดว่ากำไรปกติเราน่าจะ Growth"นายปริวัติ กล่าว
ทั้งนี้ ในปีก่อน บริษัทมีมาร์จิ้นที่ระดับ 23.25%
สำหรับงบลงทุนของบริษัทในปีนี้ยังคงอยู่ที่จำนวน 1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนสาขาใหม่ที่ชลบุรี 530 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันล้านบาท เพราะจะเปิดสาขาที่ขอนแก่น โดยใช้งบประมาณ 680 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดในเดือนธ.ค. 52 และทีเหลือ 200-300 ล้านบาทในการปรับปรุงสาขา 2-3 แห่ง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อปรับปรุงสาขาเสร็จเตรียมพร้อมรับภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น