โบรกฯแนะรอ"ซื้อ/ซื้อเก็งกำไร"กลุ่มถ่านหิน มองโอกาสปรับขึ้น,BANPU เด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 31, 2009 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะเชียร์ซื้อ-ถือหุ้นกลุ่มถ่านหินหลังราคายังมีแนวโน้มขยับขึ้น และมีโอกาสเห็นราคา Spot แตะ 80 เหรียญ/ตัน ประกอบกับมีภาวะการขาดแคลนถ่านหินในอินเดีย เพื่อแต่แนะรอราคาอ่อนตัวค่อยซื้อ

โบรกเกอร์             BANPU             LANNA                UMS               AGE

คำแนะนำ เป้าหมาย คำแนะนำ เป้าหมาย คำแนะนำ เป้าหมาย คำแนะนำ เป้าหมาย

บล.เอเชีย พลัส     ซื้อ      410.00      ถือ      11.80       ซื้อ      17.00       ซื้อ     8.00
บล.กิมเอ็ง      ซื้อเก็งกำไร  410.00      -         -      ซื้อเก็งกำไร  15.90       -        -
บล.ยูไนเต็ด        ซื้อ      398.00      -         -         -         -         -        -
บล.โกลเบล็ก    หาจังหวะซื้อ    -         -         -         -         -         -        -
บล.กสิกรไทย     รออ่อนตัว     -         -         -         -         -         -        -

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ดัชนีราคาถ่านหิน Spot (BJI)สัปดาห์สุดท้ายของ ก.ค.52 ทรงตัว WoW โดยอยู่ที่ 76.15 US$/ตัน และเฉลี่ยของเดือน ก.ค.เท่ากับ 73.82 US$/ตัน เพิ่มขึ้น 2.7% MoM โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมา 4 เดือนต่อเนื่อง

"นับเป็นข่าวบวกกับหุ้นในกลุ่มถ่านหิน(BANPU, LANNA, UMS)ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าราคาถ่านหิน Spot จะยังคงแข็งแกร่งและมีโอกาสปรับขึ้นไปแตะ 80 US$/ตันได้ในระยะต่อไป เพราะท่าเรือขนส่งถ่านหินนิวคาสเซิลมีความตึงตัวมาก"

ด้าน บล.กิมเอ็ง ระบุว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น BANPU ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2.9% เทียบกับ ITM ที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 21.0% และเทียบกับราคาหุ้นถ่านหินในภูมิภาค 15.8% ใน มิ.ย.จีนนำเข้าถ่านหินสูงถึง 16.07 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 70.4% mom และเพิ่มขึ้น 474.3% yoy ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ GDP 2Q09 +7.9% โดยในช่วง 1H09 จีนนำเข้าถ่านหินแล้วถึง 48.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึง 123% yoy และคิดเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณการค้าขายถ่านหิน(Seaborne Thermal Coal) ทั้งโลกในปี 2009 ที่มีขนาด 600-625 ล้านตัน

จากการที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าของอินเดียที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปริมาณการผลิตถ่านหินภายในประเทศไม่เพียงต่อความต้องการ ทำให้อินเดียจำเป็นต้องนำเข้าถ่านหิน โดยคาดว่าปีงบประมาณนี้จะต้องนำถ่านหินสูงถึง 70 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100 ล้านตันใน 2 ปีข้างหน้า ในช่วง ม.ค.-มิ.ย.อินเดียนำเข้าถ่านหินจากแอฟริกาใต้แล้วเกือบ 9 ล้านตัน เทียบกับทั้งปี 2008 ที่นำเข้าเพียง 10 ล้านตัน ดังนั้น เราคาดว่าภาวะขาดแคลนถ่านหินในอินเดีย จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นภาวะตึงตัวของอุตฯถ่านหินในภูมิภาคได้

ปัจจุบัน BANPU ซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 7.8 เท่าของปี09 เทียบกับในอดีตที่ซื้อขายเฉลี่ยที่ 11.1 เท่า และเมื่อเทียบหุ้นถ่านหินในภูมิภาคที่ซื้อขาย PER เฉลี่ยที่ 20.6 เท่า

"จากราคาหุ้นที่ยังไม่สะท้อนแนวโน้มอุตฯและทิศทางราคาถ่านหินที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการที่แข็งแกร่งจากจีนและอินเดีย เราจึงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร โดยแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนลง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในวันนี้ โดย ณ ราคาปัจจุบัน มี upside 18.8% จากราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของเราที่ 410 บาท"

นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน มองว่า ตลาดถ่านหินในภูมิภาคกลับมามีประเด็นบวกต่อระดับราคาถ่านหินอีกครั้ง เนื่องจากประเทศจีนมีการนำเข้าถ่านหินในเดือนที่ผ่านมาสูงถึง 16 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.52 กว่า 70% ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เราอยู่ระหว่างติดตามข้อมูลการใช้ถ่านหินในภูมิภาค โดยเฉพาะในประเทศอินเดียที่มีอัตราการเติบโตของการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการขยายตัวของภาคการผลิตไฟฟ้า โดยอินเดียนำเข้าถ่านหิน 6M52 เท่ากับทั้งปี 2551 ทำให้เชื่อได้ว่า 2 ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ระดับราคาถ่านหินในระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น

ล่าสุด ราคาถ่านหิน อยู่ที่ 76.15 เหรียญต่อตัน เท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาถ่านหินเฉลี่ยในเดือน ก.ค. 52 อยู่ที่ 73.82 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนที่ผ่านมา

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q52 ของ BANPU คาดมีกำไรอยู่ที่ 3,609 ล้านบาท ลดลง 25%qoq และเพิ่มขึ้น 57%yoy จากราคาถ่านหิน 74 เหรียญต่อตัน ลดลง 16%qoq แต่เพิ่มขึ้น 50%yoy ส่วนปริมาณขายถ่านหิน 4.5 ล้านตัน ลดลง 1%qoq และลดลง 4%yoy

ราคาหุ้น BANPU วานนี้ (30 ก.ค.52) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6.7% มาอยู่ที่ 368 บาท ทำให้การลงทุนต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 2552 คาดว่าจะอ่อนตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ราคาซื้อขายหุ้นในปัจจุบัน อยู่สูงกว่ามูลค่าเชิงพื้นฐานที่เราประเมินไว้ที่ระดับ 320 บาท แต่คาดว่าระยะสั้นราคาหุ้นจะได้รับปัจจัยบวก

นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย กล่าวว่า หุ้นกลุ่มพลังงาน ถ่านหิน ช่วงนี้ราคาถ่านหินค่อนข้างทรงตัว การปรับตัวเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมัน แต่จะ Laptime

สำหรับ BANPU ยังแนะนำ"ซื้อ" Fair Value 410 บาท/หุ้น แม้จะคาดว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากราคาขายจะเริ่มปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ปี 52 ทั้งปีน่าจะยังมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตประมาณ 39% จากปีก่อน

ส่วน LANNA ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายถ่านหินเหมือนกับ BANPU แต่ก็มีธุรกิจเอทานอลเข้ามา อาจจะเติบโตลดลง

ขณะที่ UMS และ AGE แค่รับถ่านหินมาขาย เป็น Trading Company ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นก็ต้องเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งครึ่งแรกยังไม่เห็น แต่คาดหวังว่าน่าจะเห็นในครึ่งปีหลัง

"โดยรวม BANPU ปีนี้ยังเติบโต LANNA อาจจะโตลดลง UMS ลดลงเช่นกัน ส่วน AGE โตขึ้น จึงแนะนำ"ซื้อ" BANPU UMS และ AGE ส่วน LANNA แนะนำ"ถือ"นักวิเคราะห์กล่าว

ขณะที่ นายกวี ชูกิจเกษม บล.กสิกรไทย มองว่า หุ้น BANPU ตอนนี้ราคาแพงเกินไปแล้ว คือราคาปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรงมาก ซึ่งมองว่ายังมีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจมากกว่านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่า BANPU ไม่ดี

"ตอนนี้ราคาขึ้นมาเร็วและแรงจนเว่อร์ไปนิดนึง ความรู้สึกมองว่า ณ ตอนนี้ PTT ยังน่าสนใจมากกว่า แต่ถ้าจะเข้าซื้อควรจะรอให้ราคาอ่อนตัวมามากกว่านี้"นายกวีกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ