ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสอง หดตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง ยังช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 17.15 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 9,171.61 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.73 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 987.48 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 5.80 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 1,978.50 จุด
ปริมาณาการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.5 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันพฤหัสบดีที่ 1.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
สตู ชวิทเซอร์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ไพรเวท แบงค์ ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีเสถียรภาพมากขึ้น และตัวเลขจีดีพีที่หดตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของภาคเอกชนยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดด้วย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงในอัตรา 1.5%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่หดตัวลงถึง 5.5% นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ กำลังทุเลาลง
จอห์น ซิลเวีย นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo Securities LLC ในรัฐนอร์ธ แคโรไลนา กล่าวกับว่า "เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ก็คือผลประกอบการเอกชน รวมถึงบริษัท แคทเทอพิลลาร์ และดาว เคมิคอลส์ บริษัทเหล่านี้มีภาวะขาดทุนที่ลดลง หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ"
"อย่างไรก็ตาม คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจโดยรวม อาจต้องใช้เวลาอีกนานจึงจะฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่ดการณ์ไว้" ซิลเวียกล่าว
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ในเร็วๆนี้
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดบวก 8.3% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าโครงการนำรถยนต์เก่าแบรนด์ดังมาแลกรถยนต์คันใหม่ (CARS) ของรัฐบาลสหรัฐจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ หุ้นวอชิงตัน โพสต์ ปิดบวก 7.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาสที่ 2 หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ปิดร่วง 4.2% หลังจากเจพีมอร์แกนประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "underweight" จากระดับ “neutral"