ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ รวมถึง รอยัล ดัทช์ เชลล์, บีพี และโททาล เอสเอ รายงานผลประกอบการดิ่งลงในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม ดัชนีติดลบเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้ปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 23.25 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 4,608.36 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังจากบริษัท บีพี ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป รายงานว่า ผลกำไรไตรมาส 2 ดิ่งลง 53% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ฉุดราคาพลังงานลดลงและทำให้ดีมานด์เชื้อเพลิงหดตัวลงด้วย ขณะที่เชลล์เปิดเผยว่า รายได้สุทธิไตรมาส 2 ร่วงลง 67% แตะระดับ 3.8 พันล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้วที่ระดับ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์
โททาล เอสเอ บริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของยุโรปเผยกำไรไตรมาส 2 ปรับตัวลดลง 54% เพราะได้รับผลกระทบของราคาน้ำมันที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ แล้วท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกหลังจากสถาบัน GfK NOP เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนก.ค.ทรงตัวที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 ขณะที่มีข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการบ่งชี้ว่า อังกฤษกำลังหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นเชลล์ ดิ่งลง 1.8% หุ้นบีพีร่วงลง 1.8% และหุ้นเครน เอนเนอร์จี ดิ่งลง 1.8% เช่นกัน ส่วนหุ้นบริติช แอร์เวย์ ปิดบวก 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังมากนัก นอกจากนี้มีรายงานว่าสายการบินบริติช แอร์เวย์ส จะยกเลิกการให้บริการอาหารฟรี ยกเว้นมื้อเช้า บนเที่ยวบินระยะสั้น เพราะต้องตัดรายจ่ายในยามที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยคาดว่ามาตรการล่าสุดนี้จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 22 ล้านปอนด์ (36 ล้านดอลลาร์) ต่อปี