(เพิ่มเติม) SNC คาดรายได้-กำไร H2/52 ดีขึ้น,ได้ออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนแอร์-พลาสติก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 3, 2009 11:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสามิตต์ ผลิตกรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอส.เอ็น.ซี ฟอร์เมอร์ (SNC) คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มฟื้นตัว ประกอบการ การรับจ้างผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศยังอยู่ในระดับสูง ทั้งในส่วน แอลจี และ ฟูจิตสึ

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจารับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์ โมเดลใหม่ให้กับลูกค้าเดิม คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4/52 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 53

"โมเดลที่เราสรุปในไตรมาส 4 ถือเป็นโมเดลการผลิตสูงที่สุด ถึง 5 แสนเครื่องต่อปี หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 3 พันล้านบาทต่อปี ถ้าได้ส่วนนี้มาจะช่วยเพิ่มรายได้ใหั้กับ บริษัทได้อย่างมาก" นายสามิตต์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทมีแผนลงทุนผลิตชิ้นส่วนพลาสติก มูลค่าการลงทุน 90 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 4/52 โดยบริษัทจะเช่าโรงงานที่สมุทรปราการ เนื่องจากลูกค้าเดิมที่เคยจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ แอร์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็นและ ชิ้นส่วนจักรยานยนต์ มีคำสั่งเข้ามา โดยคาดว่าปีหน้าจะมีรายได้รับจ้างชิ้นส่วนพลาสติกว่า 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปี 52 บริษัทยังคงเป้ารายได้โต 20% หรือ 4.8-5.0 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนรายได้ของ SNC ในปีนี้ จะมาจากการรับจ้างการผลิตชิ้นส่วนแอร์(OEM) และชิ้นส่วนอะไหล่แอร์ สัดส่วนกว่า 90% และชิ้นส่วนรถยนต์ 5% ที่เหลือ 1-2% มาจากธุรกิจอื่น

นายสามิตต์ กล่าวว่า บริษัทพยายามลดต้นทุนการผลิตด้านการผลิต และจัดการบริหารสต็อกสินค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดค่าใข้จ่ายด้านต้นทุนลงมาได้ประมาณ 3-4% ของต้นทุนรวม โดยในปีนี้ มั่นใจว่าบริษัทจะไม่ขาดทุนจากการสต็อกทองแดงเหมือนปีที่ผ่านมา แม้ว่าช่วงนี้ ราคาทองแดงจะมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 5,400 เหรียญ/ตัน

ส่วนการซื้อหุ้นคืน จำนวน 14 ล้านหุ้น ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับหุ้นซื้อคืนดังกล่าว โดยได้ศึกษาแนวทางหาผู้ร่วมทุน หากให้ราคาที่ดี หรืออาจมีแนวทางอื่น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปี และบริษัทไม่มีแผนซื้อหุ้นคืนอีกในระยะ 1-2 ปีนี้

กรรมการผู้จัดการ SNC กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด ประมาณ 940 ล้านบาท แบ่งไปลงทุนโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติก 90 ล้านบาท ที่เหลือ บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนที่จะต่อยอดธุรกิจ แต่ก็ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่แท้จริง

"สำหรับเงินสดในมือที่มีอยู่ ยังมองหาโอกาสการลงทุน แต่ไม่คิดที่จะนำเงินส่วนนี้มาปันผลเพราะการจ่ายปันผลของบริษัท ปัจจุบันของบริษัทก็ให้ไม่น้อยกว่านโยบายที่มีอยู่แล่ว 40% ของกำไรสุทธิ" นายสามิตต์ กล่าว

อนึ่ง ในวันนี้บริษัทได้ประกาศจ่ายเงีนปันผลระหว่างกาล อัตราหุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งสูงกว่ากำไรต่อหุ้นในงวด 6 เดือนแรกของปี 52 ที่มี 0.25 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ