ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข้อมูลอุตสาหกรรมสหรัฐสดใส หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 114.95 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 4, 2009 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งข้อมูลที่สดใสทั้งในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการธนาคาร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นเร็วๆนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 114.95 จุด หรือ 1.25% แตะที่ 9,286.56 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 15.15 จุด หรือ 1.53% แตะที่ 1,002.63 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 30.11 จุด หรือ 1.52% แตะที่ 2,008.61 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.21 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.18 พันล้านหุ้น

โฮเวิร์ด เวิร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัท GAMCO Growth Fund ในนิวยอร์กกล่าวว่า "แม้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กหลุดพ้นจากช่วงขาลงแล้ว แต่ข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ออกมาดีเกินคาดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึงตัวเลขจีดีพี ยอดขายบ้าน และข้อมูลด้านการผลิต"

สถาบันจัดการอุปทาน (ISM) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 48.9 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2551 และ อยู่ในระดับที่สูงเกินคาด แม้ว่าดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 50 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคโรงงานยังคงหดตัวก็ตามลง

จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงในอัตรา 1%ต่อปี น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 1.5% ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.พุ่งสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 11% นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ กำลังทุเลาลง

ตลาดขานรับนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวให้สัมภาษณ์ทางรายการ “This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC เมื่อวานนี้ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี จะสิ้นสุดลงและเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวรวดเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยกรีนสแปนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวในอัตรา 2.5% เมื่อดูจากตัวเลขสต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าปริมาณการผลิตปรับตัวขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์ของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของธนาคารในยุโรป โดยธนาคารบาร์เคลย์สรายงานกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 10% และธนาคาร HSBC กำไรครึ่งปีแรกลดลง 57% แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วนในฟากอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น และบริษัทฟอร์ด มอเตอร์รายงานยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าโครงการนำรถยนต์เก่ามาแลกรถยนต์ใหม่ของรัฐบาลสหรัฐจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทรถยนต์ในประเทศได้

ทั้งนี้ หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดพุ่ง 4% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปิดพุ่ง 3.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ