บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ(BAFS)ปรับเป้ารายได้ปี 52 ใหม่เป็นลดลง 6% จากเป้าเดิมคาดว่าจะลดลง 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าบริการ 1.43 พันล้านบาท และปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานลดลงจากเป้าเป็น 7% จากเดิม 6% จากปีก่อนที่ปริมาณเติมน้ำมัน จำนวน 4.3 พันล้านลิตร หลังเจอเหตุการณ์แพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 และการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงช่วงสงกรานต์รุมเร้า นอกเหนือจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจซบ ทำให้สายการบินลดเที่ยวบินลงไปมาก
แต่คาดว่าครึ่งปีหลังธุรกิจการบินกระเตื้องขึ้น สายการบินลดเที่ยวบินน้อยลงในเดือน ก.ค.เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นด้วย ประกอบกับ มาตรการลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ตั้งเป้าลดกว่า 10% ก็จะทำให้กำไรของบริษัทได้รับผลกระทบไม่มากนัก นอกจากนี้ ช่วงกลาง ส.ค.นี้ จะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
"รายได้บริษัทจะลดลง 6% จากเดิมตั้งเป้าลดลง 5% เพราะก่อนหน้านี้เราไม่นึกถึงไข้หวัดจะรุนแรงถึงขนาดนี้ทำให้คนเดินทางน้อยลงไปมาก ยกเลิกการเดินทาง แต่ก็คิดว่าครึ่งปีหลังเที่ยวบินยกเลิกน้อยลง คิดว่าคนเริ่มชินแล้ว และช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงเช้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว"ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ BAFS กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ จากรายได้ลดลง ส่งผลให้กำไรก็ลดลงตามไปด้วย แต่เนื่องจากบริษัทก็มีมาตรการลดค่าใช้จ่ายมาเป็นตัวช่วย ปีนี้ตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงไปได้ 10 กว่า%ขึ้นไป ของค่าใช้จ่ายโดยรวม จะทำให้ผลกำไรไม่ได้รับกระทบมากนัก
ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าวว่า บริษัทไม่สามารถปรับเพิ่มค่าบริการได้ เพราะทุกสายการบินก็มีสถานะแย่อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทจะสามารถปรับเพิ่มค่าบริการได้ทุกปีตามสัญญา แต่ปรับเพิ่มขึ้นไม่ได้ ตั้งแต่ย้ายไปสุวรรณภูมิ ไม่ได้ปรับเพิ่มค่าบริการเลย ยิ่งในสภาวะแบบนี้ ถือว่าช่วยเหลือกัน
ในปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 437.73 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/52 มีกำไรสุทธิ 108.02 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น ถ้ามีกำไรก็ต้องแบ่งจ่ายปันผล ซึ่งจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในกลางเดือน ส.ค.นี้
*สัญญาณเดือนก.ค.ดีขึ้น ยกเลิกเที่ยวบินน้อยลง
กรรมการผู้จัดการ BAFS คาดว่าธุรกิจการบินน่าจะถึงจุด bottom แล้ว โดยเดือน ก.ค.เริ่มดีขึ้น จากตารางการบินของทุกสายการบินที่มีอยู่ ในเดือน ก.ค.จำนวนยกเลิกเที่ยวบินน้อยลง เมื่อเจอภาวะเศรษฐกิจโลกและไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็ต้องยกเลิกเที่ยวบิน โดยในเดือน มิ.ย.มีการยกเลิกเที่ยวบินสูงมากหรือสูงสุดในตั้งแต่ต้นปี จากตัวเลขการยกเลิกเที่ยวบินในเดือน ก.ค.ลดลง
แต่ในเดือน ก.ค.นี้ สายการบินไทย(THAI)ยกเลิกเที่ยวบินไป 4 เที่ยวบิน/วัน จากเมื่อเดือน มิ.ย.ยกเลิกเที่ยวบิน 11 เที่ยวบิน/วัน ซึ่งดูแล้วแนวโน้มสายการบินอื่นก็คงมีทิศทางเดียวกับสายการบินไทย และคาดการณ์ธุรกิจการบินในครึ่งปีหลังก็จะดีขึ้น
"ผมว่าธุรกิจสายการบินน่าจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาที่ทุกสายการบินลดเที่ยวบินจำนวนมาก แต่ในเดือนก.ค.การลดเที่ยวบินมีน้อยลง เราคิดว่าธุรกิจเราจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง...คาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังตัวเลขคงจะดีแน่" ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าว
เว็บไซด์ของบริษัทรายงานปริมาณน้ำมันโดยรวมของสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองในเดือน ก.ค.52 มีจำนวน 337.5 ล้านลิตร ลดลง 5.81% จาก ก.ค.51 แต่สูงขึ้น 11.13% จากเดือน มิ.ย.52 ที่มีปริมาณเติมน้ำมัน 303.7 ล้านลิตร
ม.ร.ว.ศุภดิส คาดว่า ครึ่งปีหลังก็จะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ยอดปริมาณเติมน้ำมันลดลงไป 13.5% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะติดลบ 12% เพราะเราไม่คาดว่าจะมีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา รวมทั้งการชุมนุมทางการเมืองในช่วงสงกรานต์ โดยบริษัทได้ทำประมาณการเมื่อเดือนมี.ค.52 ที่ผ่านมา
และเนื่องจาก ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.ของปีก่อน มีการปิดสนามบินประมาณ 10 วัน โดยในเดือนพ.ย.มีปริมาณเติมน้ำมัน ลดลง 24% และในเดือน ธ.ค.มีปริมาณเติมน้ำมัน ลดลง 28% เพราะฉะนั้นในครึ่งหลังของปีนี้เทียบแล้วกับครึ่งปีหลังปีก่อนคงจะดีขึ้น หรือประมาณการว่าจะมีปริมาณเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% ในสนามบินสุวรรณภูมิ