ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงยอดทำสัญญาซื้อบ้านและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซาและดาวโจนส์ปิดบวกไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากได้เข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีทะยานขึ้นกว่า 14% ภายในระยะเวลาเพียง 16 วัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 33.63 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 9,320.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.02 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 1,005.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 2.70 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,011.31 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.25 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.29 พันล้านหุ้น
จอห์น คานอลลี นักวิเคราะห์จาก LPL Financial กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับป้จจัยบวกหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนมิ.ย.ดีดตัวขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาดและเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
ทั้งนี้ ราคาบ้านและ อัตราดอกเบี้ยเพื่อการซื้อบ้านที่ปรับตัวลดลงช่วยหนุนยอดขายบ้านปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ที่ออกแถลงการณ์ประจำสัปดาห์ทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของสหรัฐ โดยโอบามาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง เนื่องจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์และนโยบายอื่นๆได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอย
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขว่างงานนอกภาคการเกษตรา (nonfarm payroll) ประจำเดือนก.ค.จะลดลง 325,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ทรุดตัวลง 467,000 ตำแหน่ง แต่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนดังกล่าวจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.6%
หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ปิดบวก 6.1% หลังจากซีอีโอแสดงความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีผลประกอบการรายปีที่สูงเกินคาดในปีนี้ ขณะที่หุ้นหุ้นเป็ปซี่ โคปิดบวก 5.1% หุ้นเป็ปซี่ บ็อทลิ่งปิดพุ่ง 8.5% และหุ้นเป็ปซี่ อเมริกาส์ ปิดบวก 9% หลังจากมีรายงานว่าเป็ปซี่ โค ตกลงซื้อกิจการบริษัทเป็ปซี่ บ็อทลิ่ง และเป็ปซี่ อเมริกาส์ มูลค่า 7.8 พันล้านดอลลาร์