นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมแยกข้อมูลการซื้อขายเพื่อบัญชีการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ออกมาตามที่จากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้เสนอแนะว่า เพื่อให้เห็นถึงตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ที่แท้จริง โดยไม่นำไปนับรวมกับมูลค่าซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ตลท..อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบและเตรียมพร้อมข้อมูลต่าง ๆ ในการนำเสนอต่อผู้ลงทุน คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน ซึ่งการจัดทำข้อมูลใหม่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพการการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
ตลท.จะแยกสัดส่วนนักลงทุนเพิ่มเป็น 4 กลุ่ม จากเดิมที่แบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ในประเทศ และนักลงทุนรายย่อย จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์ที่จากเดิมรวมกับสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์มีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก สัดส่วนการลงทุนสูงกว่าบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
"เป็นไปตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เสนอแนะให้ ตลท.แยกการทำคำนวณมาร์เก็ตแชร์ในด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และคำนวณส่วนการแบ่งตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ออกมาจากมาร์เก็ตแชร์จากลูกค้ารายอื่น"นางภัทรียา กล่าว
ส่วนกรณีที่ รมว.คลังมีแนวคิดเรียกเงินคืนในกองทุนที่ใช้พัฒนาตลาดทุนจำนวน 1 หมื่นล้านบาทส่งคืนกระทรวงการคลังนั้น นางภัทรียา กล่าวว่า ทางตลท.ยังไม่ได้รับนโยบายในส่วนนี้ มีเพียงให้ศึกษาร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน ซึ่งขณะนี้เงินกองทุนเหลือประมาณ 8 พันล้านบาท ไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ยืนยันว่าเงินกองทุนเป็นเงินที่ใช้ในการพัฒนาตลาดทุนเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในด้านอื่น ๆ และแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะแปรรูปแต่การพัฒนาตลาดทุนก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญ