โบรกฯ เห็นพ้อง"ซื้อ"STEC ผลดำเนินงานปีนี้ฟื้น-มีโอกาสรับงานเพิ่มอีกมาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 5, 2009 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC)มองผลประกอบการปี 52 ฟื้นจากปีก่อนหลังเสร็จสิ้นงานแอร์พอร์ตลิงค์และศูนย์ราชการ ซึ่งทำแล้วไม่ได้กำไร โดยมองปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น และงานในมือ(Backlog)จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวหลังได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 2

ทั้งนี้ คาดว่า STEC จะรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเห็นได้ชัดในปีหน้า 53 และรับรู้รายได้สูงสุดจากงานนี้ในปี 54-55 พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ STEC ปี 53 ไว้ที่ 323-353 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 192-307 ล้านบาท เติบโต 7.8-72% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 178 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ส่วนงวดไตรมาส 2/52 น่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/52

STEC ยังมีโอกาสชนะการประมูลอีกหลายโครงการ เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ ทั้งโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ งานภายใต้แผน"ไทยเข้มแข็ง" และ งานโรงไฟฟ้า IPP

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          BNP Paribar                    ซื้อ                 5.00
          Deutsche Bank                  ซื้อ                 5.20
          CLSA                           ซื้อ                 5.00
          Credit Suisse                  ซื้อ                 5.20
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน                ซื้อ                 8.19
          บล.ไอวี โกลบอล                  ซื้อ                 4.50
          บล.กสิกรไทย                     ซื้อ                 5.50
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)             ซื้อ                 4.66
          บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)            ซื้อ                 4.80
          บล.บัวหลวง                      ซื้อ                 5.70
          บล.ทิสโก้                        ซื้อ                 5.20
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)   ซื้อ                 5.44
          บล.เกียรตินาคิน                 ทยอยซื้อ               5.25
          บล.กรุงศรีอยุธยา                เทรดดิ้ง               5.50

นางสาวศันสนีย์ ศรีจามจุรีย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ มองไปที่กำไรสุทธิของ STEC ในปี 52 น่าจะออกมาดีกว่าปี 51 มาก โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ประมาณ 245 ล้านบาท เติบโต 37.5% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาท

โดยหลัก ๆ มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ STEC น่าจะดีขึ้นมาก ภายหลังจากที่งานในส่วนของแอร์พอร์ตลิงค์ และศูนย์ราชการแล้วเสร็จในครึ่งปีแรก เพราะทั้งสองโครงการนี้ทำแล้วไม่ได้เงิน กำไรขั้นต้นเป็นศูนย์ ดังนั้น จึงมองว่า STEC น่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 2/52 ก็น่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/52

นอกจากนี้ หากมองระยะไกลกว่านี้จะเห็นว่า STEC มีโอกาสที่จะชนะประมูลโครงการอื่นอีกหลายโครงการ เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 53 ส่วนโครงการรถไฟฟ้ายังมีให้ประมูลอีก และยังมีงานภายใต้แผน"ไทยเข้มแข็ง"ด้วย อีกทั้งงานโรงไฟฟ้า คาดว่างานโรงไฟฟ้า IPP น่าจะเริ่มทยอยเข้ามาแล้ว ซึ่งหาก IPP เปิดให้ bid ได้เมื่อไร STEC ก็น่าจะมีโอกาสสูงที่จะได้งานนี้ เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านนี้

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)มองว่า ผลประกอบการของ STEC ในปี 52 น่าจะฟื้นตัวขึ้น รับผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ภายหลังจากเสร็จสิ้นงานในส่วนแอร์พอร์ตลิงค์ และศูนย์ราชการ ซึ่งคาดการณ์กำไรสุทธิของ STEC ในปีนี้ไว้ที่ 307 ล้านบาท เติบโต 72% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 178 ล้านบาท และคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ STEC ในปี 53 จะอยู่ที่ 323 ล้านบาท

โดยหลัก ๆ ที่มองว่า STEC ดี เป็นผลจากที่ได้รับงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 2 ทำให้งานในมือ(Backlog)เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหลังได้งานนี้ จากเดิมเมื่อไตรมาส 1/52 มี Backlog อยู่ 10,000 ล้านบาท พอได้งานรถไฟฟ้าสัญญาที่ 2 มูลค่างาน 13,100 ล้านบาทหลังผ่านการเจรจาต่อรองราคาแล้ว Backlog จึงขึ้นมาเท่าตัว ซึ่งงานในส่วนนี้จะเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า และจะรับรู้รายได้สูงสุดในปี 54-55

นายชาตรี ศรีสมัยเจริญ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา ประเมินหุ้น STEC ว่าแม้งานในส่วนของแอร์พอร์ตลิงค์และศูนย์ราชการจะแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งจะทำให้มาร์จินดีขึ้น แต่มองว่าตัวเลขของการรับรู้รายได้ของ STEC ในปีนี้น้อยลงกว่าปีที่แล้ว โดยปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 11,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีการรับรู้รายได้ 14,600 ล้านบาท ดังนั้น กำไรสุทธิปีนี้ของ STEC จึงคาดว่าจะอยู่ที่ 192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี มองว่า STEC มีแนวโน้มที่จะได้รับงานใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ไปจนถึงปีหน้า 53 และรายได้ของ STEC จะสูงขึ้นมากในปีหน้า จากการรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ STEC ในปีหน้าจะมีสูงถึง 353 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ