CEI คาดรายได้จากลงทุนในแหล่งน้ำสยามปี 53 ราว 20-30%,เล็งลงทุนใหม่เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 6, 2009 11:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจาก บมจ.คอมพาสส์ อีสต์ อินดัสตรี้(ประเทศไทย)(CEI)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การเข้าลงทุนใน แหล่งน้ำสยาม เนื่องจากดูเทียบเคียงแล้วธุรกิจนี้ค่อนข้างจะเป็นธุรกิจที่เป็นสัมปทานและเป็นกำไรอยู่ประมาณ 20-30% ก็น่าจะมีอนาคตมากกว่า เพราะเนื่องจากเป็นสัมปทานก็ไม่น่าจะมีคู่แข่ง เพราะเราได้พื้นที่ตรงไหนก็จะกินตรงนั้นระยะยาว 20 ปี และน่าจะทำรายได้เข้ามาใน CEI เบื้องต้นในปีแรก (53) ผลตอบแทนน่าจะอยู่ที่ 20-30% จากที่ได้เข้าไปถือหุ้นในแหล่งน้ำสยามในสัดส่วน 10%

ปัจจุบันมีเงินสดประมาณ 200 กว่าล้านบาท จากก่อนหน้าที่มีอยู่ 300 กว่าล้านบาท แต่หลังจากลงทุนแหล่งน้ำสยามไปแล้วก็จะลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงเล็งหาธุรกิจอื่นด้วยนอกจากแหล่งน้ำสยาม

"คิดว่าน่าจะต้องหาไลน์ธุรกิจอื่นเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วยนอกเหนือจากแหล่งน้ำสยาม เนื่องจากบริษัทเรามีเงินสดเยอะมากเป็นเงินฝากในธนาคารเพื่อรอจังหวะการลงทุนใหม่ๆ เพราะตอนนี้ก็จะมีตัวแทนเข้าไปติดต่อหาธุรกิจที่น่าสนใจเพื่อที่จะเข้าไปลงทุนส่วนใหญ่เป็นในประเทศ"

อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของ CEI ยังคงเป็นการผลิตและจำหน่ายพัดลมเหมือนเดิม และก็จะมีเรื่องของพื้นที่ให้เช่าเพราะพื้นที่ให้เช่าก็จะมีรายได้อยู่ประมาณ 25% โดยแหล่งน้ำสยามรายได้น่าจะเข้ามาปีหน้า (53) เพราะเราปิดสิ้นงวดปี 52 สิ้น 31 ก.ค.52 ส่วนจะทำให้พลิกเป็นกำไรได้หรือไม่นั้น ตอนนี้จริงๆแล้วตัวผลประกอบการจริงๆของบริษัทมีกำไร แต่ไปขาดทุนเรื่องของการที่ขายบริษัทย่อยออกไปเป็นรายการที่ทำให้ขาดทุนโดยยังคงต้องมีผลขาดทุนอยู่ในปี 52 และ 53 เพราะผลขาดทุนค่อนข้างสูงมาก คือผลกำไรของเราปี 51 ประมาณ 30-40 ล้านบาท แต่ตัวนี้ทำให้เราขาดทุนประมาณ 90 ล้านบาท ปี 53 ก็อาจจะยังลดไม่หมด ปี 54 น่าจะหมด

สำหรับในปี 52 น่าจะยังขาดทุนอยู่ จากปีที่แล้วมีกำไร 38.57 ล้านบาท และปีที่แล้วมีการจ่ายเงินปันผล แต่ปีนี้เราขาดทุนมาจากบริษัทย่อยอย่างเดียวเลย และปีหน้า(53) ก็ยังจะต้องรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทย่อยอยู่ ซึ่งก็จะทำให้ปี 52 อาจจะไม่มีการจ่ายปันผลถ้าดูตามแนวโน้มเพราะนโยบายของบริษัทถ้าขาดทุนก็คงไม่จ่ายปันผล

"ผลขาดทุนจากบริษัทย่อยคาดว่าจะหมดในปี 54 ตอนนี้ยังเหลืออยู่เยอะพอสมควร ถ้าเทียบดูจากไตรมาส 3/52 ประมาณ 60 กว่าล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/52 ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้คิดตัวเลข และปี 53 ก็ยังต้องขาดทุนอยู่บ้างเพราะตัวเลขเยอะ"

รายได้ของปี 53 สัดส่วนก็จะเป็นในเรื่องของพัดลมประมาณ 50% รายได้จากการเช่า 25% และอาจจะมีรายได้จากเงินลงทุนแหล่งน้ำสยามเข้ามาประมาณ 20-25%

สำหรับปี 52 รายได้รวมคาดว่าจะลดลงจากปี 51 โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา สิ้นสุดเม.ย.52(งวด 9 เดือน) ตัวเลขรายได้เฉพาะบริษัทฯใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อน แต่เนื่องจากปีที่แล้วมีรายได้จากยอดขายบริษัทย่อยเข้ามาด้วยก็จะหายไปในส่วนนั้นเพราะขายไปแล้ว ทำให้คาดว่ารายได้รวม(Consolidated)ต้องน้อยกว่าปีที่แล้วแน่นอน เพราะยอดขายของบริษัทย่อยปีที่แล้วประมาณ 100 ล้านบาท จึงคาดว่าปีนี้รายได้รวมน่าจะอยู่ประมาณ 70-80 ล้านบาท โดยในส่วนของยอดขายพัดลมธุรกิจตอนนี้เริ่มมีคู่แข่งเข้ามาค่อนข้างเยอะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและการกำหนดราคาเป็นไปได้ยาก

"พัดลมตอนนี้ก็เรื่อยๆ แต่ต้องรักษาไว้เพราะเป็นธุรกิจดั้งเดิม ทิศทางยอดขายพัดลมจะเป็นอย่างไรนั้นต้องดูแนวโน้มธุรกิจเศรษฐกิจด้วยเพราะตอนนี้เงียบๆ ไปหมด ลูกค้าหลักๆ ก็ถูกกระจายไปในโมเดิร์นเทรด ที่โฮมโปรโฮมเวิร์ค ตรงนี้อยู่แล้ว ถ้ายอดขายลดลงก็มาจากมีคู่แข่งเข้ามาและลูกค้ายังไม่สนใจ"

ส่วนธุรกิจพื้นที่ให้เช่าช่วงนี้ลดลงบ้างเพราะลูกค้า 2 รายเพิ่งเลิกเช่าไปเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมาเพราะสร้างโรงงานเองจึงย้ายไปโรงงานเค้า แต่ขณะนี้ฝ่ายการตลาดก็พยายามหาลูกค้าอยู่ โดยคาดว่าปีนี้รายได้จากค่าเช่าประมาณ 20 กว่าล้านบาทได้ จะมีทั้งลูกค้าที่ทำสัญญาปีต่อปี และมี 3 ปี 1 รายเป็นรายใหญ่ค่าเช่าประมาณเดือนละ 1 ล้านบาทเศษ

ส่วนธุรกิจชุดเคลือบผิว คงต้องรอประธานบริษัทแถลงอีกครั้งหนึ่งว่าจะเลิกไปหรือไม่ ขณะที่บริษัทก็เล็งธุรกิจอื่นๆ ไว้ด้วย คาดว่าในปี 53 คงมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกมาก โดยจะเน้นลักษณะร่วมลงทุนกับบริษัทอื่น เพราะบริษัทเราก็เป็นบริษัทที่มีเงินที่พร้อมจะลงทุนค้อนข้างเยอะแต่ด้วยศักยภาพของตัวเราเองอาจจะไม่ได้ทำอะไรมากมายตรงนี้

"เทคโอเวอร์บริษัทอื่นคงไม่เทกฯ แต่จะเป็นลักษณะเข้าไปลงทุน ร่วมทุนกับเค้ามากกว่า"

ทั้งนี้ มองทิศทางเศรษฐกิจปี 54 (รอบปีบริษัท) คงดีขึ้น คงมีอะไรชัดเจนที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ