ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 649.21 จุด เพิ่มขึ้น 9.05 จุด(+1.41%) มูลค่าการซื้อขาย 24,786.95 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 649.87 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 637.72 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 217 หลักทรัพย์ ลดลง 101 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์
นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ สถาบันวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะนิกเคอิที่ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่ดัชนีชี้วัดสถานภาพทางเศรษฐกิจ(CI)ของญี่ปุ่นออกมาดี
เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้(6 ส.ค.)มีรายงานออกมาว่า รัฐบาลญี่ปุ่น เผยดัชนีชี้วัดสถานภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน (CI) ของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.7 จุด จากเดือนพ.ค. แตะระดับ 87.8 จุด จากรายงานเบื้องต้นที่ระดับ 85.8 จุด นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ว่าภาวะถดถอยครั้งรุนแรงนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกของญี่ปุ่นเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่า Fund Flow ยังคงไหลเข้า และคิดว่าวันนี้นักลงทุนต่างชาติคงจะยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบก็ยังสามารถยืนได้เหนือ 70 เหรียญฯ/บาร์เรล สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุนตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้นได้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(7 ส.ค.)นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 646-655 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,734.24 ล้านบาท ปิดที่ 256.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,135.39 ล้านบาท ปิดที่ 20.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,883.20 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,703.21 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,547.89 ล้านบาท ปิดที่ 416.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาท