นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บมจ. สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ให้ขยายตัว 5-10% หรือใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 929 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/52 บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ที่ยังไม่ฟื้นตัว
แต่ในแง่ของกำไรมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 40.73 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสที่ 2/52 กำไรสุทธิเริ่มเติบโตอย่างโดดเด่น และจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ เตรียมติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเพื่อให้มีกำลังการผลิตเพียงพอสำหรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต
SALEE และบริษัทย่อยมีผลประกอบการไตรมาส 2/52 สิ้นสุด 30 มิ.ย.52 เติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิรวม 22.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 51 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 11.38 ล้านบาท ในขณะที่งบเฉพาะกิจการไตรมาส 2/52 มีกำไรสุทธิ 36.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206.77% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 11.80 ล้านบาท
"การเพิ่มขึ้นของกำไรในไตรมาส 2 ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของธุรกิจ แต่การเติบโตเราจะได้เห็นอย่างเด่นชัดตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป เนื่องจากธุรกิจทุกกลุ่มเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่ธุรกิจในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจของ บริษัท เอสซี วาโด จำกัด ที่รับจ้างผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนโลหะสำหรับยานยนต์ จะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงน่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาสนี้ได้"นายสาทิส กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเห็นได้จากยอดรายได้รวมของกลุ่มบริษัทจำนวน 200 ล้านบาท ในไตรมาส 2/52 ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มีเพียงจำนวน 165 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้รวมลดลงจาก 222 ล้านบาทในไตรมาส 2/51 มาเป็น 200 ล้านบาทในไตรมาส 2/52 หรือคิดเป็นอัตราลดลง 10% จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว แต่ต้นทุนขายของบริษัทลดลงมากกว่า 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องด้วยราคาเฉลี่ยของน้ำมันในปีนี้มีราคาเฉลี่ยต่ำกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบซึ่ง ส่วนใหญ่จะมีราคาเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน มีราคาที่ต่ำกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก