บมจ.บ้านปู(BANPU)ชี้แจงงบการเงินไตรมาส 2/52 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.52 มีกำไรสุทธิจำนวน 3,982 ล้านบาท สูงขึ้นร้อยละ 73 จากปีก่อนหน้า จากราคาขายถ่านหินที่สูงขึ้นของเหมืองในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นของ ธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนจากการที่บริษัทเข้าซื้อกิจการ AACI เมื่อช่วงกลางปี 2551
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิปรับลดลงร้อยละ 17 ตามการลดลงของราคาขายถ่านหินและ การรับรู้กำไรจากอนุพันธ์ทางการเงินที่ลดลง
ในไตรมาส 2/52 ปริมาณขายถ่านหินจำนวน 4.51 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ปรับสูงขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการขนถ่ายถ่านหินได้กลับมาดำเนินการตามปกติหลังจากที่ได้มีการหยุดซ่อมบำรุงที่ท่าเรือบอนตัง เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เมื่อไตรมาสก่อนหน้า อนึ่ง เหมืองอินโดมิงโกได้เริ่มการผลิตถ่านหินในพื้นที่ East Block ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่และ อยู่ติดกับพื้นที่ปัจจุบันคือ West Block บริษัทคาดว่าการผลิตถ่านหินจาก East Block จะมีส่วนช่วยให้ปริมาณการผลิตในครึ่งปีหลัง ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยเท่ากับ 73.89 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จึงส่งผลให้ รายรับจากธุรกิจถ่านหินปรับลดลงเช่นกันร้อยละ 5 ทั้งนี้เนื่องจากราคาขายถ่านหินส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาก่อนล่วงหน้า ดังนั้นการที่ ราคาขายถ่านหินได้ปรับลดลงในไตรมาสนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงสภาวะราคาตลาดที่อ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2551
ปริมาณการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดต่ำลง ถึงแม้ราคาดีเซลได้ปรับสูงขึ้นก็ตาม ต้นทุน ขายเฉลี่ยปรับลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลในสาธารณรัฐอินโดนีเซียปรับสูงขึ้นร้อยละ 11 เป็น 0.49 เหรียญสหรัฐฯต่อลิตร อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจถ่านหินอ่อนตัวลงเป็นร้อยละ 53 จากร้อยละ 55 ในไตรมาส ก่อนหน้า
ธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนยังคงรายงานผลการดำเนินงานที่ดี โดยส่วนแบ่งกำไรจากเหมืองเฮ่อปี้และกลุ่ม AACI สะท้อนถึงปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นที่มีส่วนช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง ขณะเดียวกันราคาขายถ่านหินของตลาดในประเทศยังอยู่ใน ระดับที่ดี ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้านั้น โรงไฟฟ้า BLCP มีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าในระดับที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 268 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจาก BLCP คิดเป็น 1,249 ล้านบาท ส่วนธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนภายใต้ BPIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้บันทึกกำไรสุทธิจำนวน 101 ล้านบาท เป็นการ ปรับลดลงร้อยละ 55 จากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากความต้องการใช้ไอน้ำที่ลดลงหลังจากที่พ้นฤดูหนาว
ไตรมาสนี้บริษัทได้บันทึก EBITDA รวมเป็นจำนวน 6,833 ล้านบาท ซึ่งลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยแบ่ง เป็น EBITDA จากธุรกิจถ่านหินจำนวน 5,383 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 4) และ EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 1,450 ล้าน บาท (ลดลงร้อยละ 1)
นอกจากผลประกอบการจากธุรกิจหลักแล้ว บริษัทยังได้มีการทำสัญญาอนุพันธ์ทางการเงินที่เกี่ยวกับราคาถ่านหินและน้ำมัน ดีเซล โดยในไตรมาสนี้ได้มีการบันทึกกำไรจากสัญญาอนุพันธ์ทางการเงินจำนวน 221 ล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับกำไรจำนวน 794 ล้านบาทที่ได้บันทึกไว้ในไตรมาสก่อนหน้า
ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณ Reserves ของถ่านหินคงเหลือ สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552 มีจำนวน 588.10 ล้านตัน
ปริมาณการจำหน่าย (ล้านตัน)
Source Reserves ปริมาณการขาย Reserves ณ 31 มี.ค. 52 เม.ย.- มิ.ย. 52 ณ 30 มิ.ย. 52 1. ประเทศไทย 1.1 จังหวัดพะเยา (CMMC) 0.04 0.04 - 2. อินโดนีเซีย 2.1 Jorong 9.67 0.74 8.93 2.2 Indominco 146.42 2.48 143.94 2.3 Kitadin 26.73 26.73 2.4 Trubaindo 78.89 1.19 77.70 2.5 Bharinto 46.30 46.30 3. จีน 3.1 Daning 65.58 1.48 64.10 3.2 Gaohe 190.88 190.88 3.3 Hebi Zhongtai 29.93 0.41 29.52 รวม 594.44 6.34 588.10