ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายทำกำไรถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 32.12 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2009 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีทะยานขึ้นหลายวันติดต่อกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทสหรัฐและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ และจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจ้างงานที่ออกมาดีเกินคาดของสหรัฐเป็นปัจจัยบวกที่สกัดกั้นแรงลบและพยุงดาวโจนส์ไม่ให้ปิดลบมากนัก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 32.12 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 9,337.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.38 จุด หรือ 0.33% แตะที่ 1,007.10 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 8.01 จุด หรือ 0.40% แตะที่ 1,992.24 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.09 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 8 ต่อ 7 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.86 พันล้านหุ้น

ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จาก Schaeffer`s Investment Research กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาเทขายทำกำไรตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดลบไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนยังขานรับอัตราการว่างงานประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 9.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวและเชื่อว่าผลพวงของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้นั้นจะเห็นผลมากขึ้นในไตรมาสนี้

"มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว อาจกล่าวได้ว่าภาวะถดถอยรุนแรงทางเศรษฐกิจได้สิ้นสุดลงแล้วในเดือนก.ค. หรืออาจจะสิ้นสุดลงในเดือนส.ค. แต่ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจได้ดิ่งลงสู่ก้นเหวแล้ว และเดือนส.ค.จะเป็นเดือนที่เราจะเริ่มเห็นผลพวงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" ครุกแมนกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมตลาดทุนโลกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25% ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 11 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ไม่มั่นใจว่าเฟดจะขยายเวลาการซื้อพันธบัตรออกไปจนถึงเดือนก.ย.หรือไม่ หลังจากอัตราว่างงานเดือนก.ค.ในสหรัฐปรับตัวลดลง

นักลงทุนจับตาดูยอดค้าปลีกของสหรัฐ รวมทั้งยอขายของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอล-มาร์ท และเมซี ซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ อีกทั้งจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย., รายงานงบประมาณของรัฐบาลประจำเดือนก.ค.และมติการประชุมของเฟด ซึ่งทั้งหมดจะมีการเปิดเผยในวันพุธ

ส่วนวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค.และยอดค้าปลีกเดือนก.ค. วันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค.

ทั้งนี้ หุ้นแมคโดนัล ปิดพุ่ง 4.3% หุ้นเมซีปิดลบ 4.75% หุ้นเบสท์บายปิดลบ 5.26%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ