ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีวันนี้ปรับตัวลง ขายทำกำไร-ราคาน้ำมันอ่อนตัว-กังวลการเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2009 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บลเอเซียพลัส คาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มเทขายทำกำไร ทำให้ตลาดอ่อนตัวได้ หลังจากราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการจนเต็มมูลค่า (Fair Value) ไป โดยเฉพาะหุ้นตัวใหหญ่ ประกอบกับความกังวลในเรื่องการเมือง

"มีโอกาสที่ถูกขายทำกำไรได้ เพราะเท่าที่ดู ปัจจัยเวดล้อมสะท้อนเกี่ยวกับผลประกอบการค่อนข้างมากพอสมควรแล้ว ถ้าดูราคาหุ้นต้วใหญ่ส่วนใหญ่เต็ม Fair Value แรงขับเคลื่อนตลาดจะเบา และมีความกังวลเรื่องการเมืองก็มองว่าถูกขายทำกำไรได้เหมือนกัน"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ให้กรอบวันนี้ แนวต้านที่ 650 จุด และแนวรับที่ 635 จุด

ด้านบล.คันทรี่ กรุ๊ป มองภาพรวมของตลาด อาจไม่ดีนัก จากปัจจัยตลาดต่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย และราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวลง ประกอบกับนักลงทุนอาจชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่วันหยุดของไทย ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง

จึงแนะนำให้ชะลอการลงทุน หรือตั้งรับหุ้นในระดับที่ราคาต่ำๆไว้ก่อน แต่สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง หากตลาดปรับตัวลงตามที่คาด นักลงทุนอาจใช้จังหวะที่ราคาหุ้นลดลงนี้ เข้าซื้อเพื่อรับผลการประชุม FOMC ในวันที่ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการ

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คืนวาน(10 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,337.95 จุด ลบ 32.12 จุด(-0.34%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,007.10 จุด ลดลง 3.38 จุด(-0.33%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,992.24 จุด ลบ 8.01 จุด (-0.40%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 717.81 ล้านบาท วานนี้ (10 ส.ค.)
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 70.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 33 เซ็นต์
  • ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติให้ลดการเรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อลดราคาน้ำมันดีเซล(B2)ลงรวม 2 บาท/ลิตร
พร้อมทั้งให้ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(LPG), ก๊าซธรรมชาติ(NGV) และค่าไฟฟ้าผันแปร(FT) ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.53 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในวันนี
  • ที่ประชุมวุฒิสภาวานนี้ได้ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ด้วยคะแนน 110 ต่อ 21 โดยงดออกเสียง 9 และไม่ลงคะแนน 1 คน พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้น 27 คน เพื่อพิจารณาภายใน 30 วัน
  • นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สว.สรรหา เปิดเผยว่า จะรวบรวมรายชื่อสส. และสว. จำนวน 1 ใน10 เสนอต่อประธานวุฒิสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท เพราะไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 167 คือ ไม่มีแผนการใช้จ่ายชัดเจน ไม่ผ่านการตรวจสอบในวิธีการทางงบประมาณ
  • ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดแผนกลยุทธ์ที่จะเพิ่มบทบาทของตลาดทุนไทยในภูมิภาคเอเชีย โดยการเปิดให้บริษัทต่างประเทศ (foreign issuer) สามารถออกและเสนอขายหุ้นแก่ผู้ลงทุนในประเทศไทยและนำหุ้นดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าในตลาด
  • นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มของการเติบโตตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งเริ่มเห็นการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติแล้วในขณะนี้ และน่าจะได้เห็นการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
  • นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุ การกลับเข้ามาลงทุนของบรรดากองทุนต่าง ๆ และนักลงทุนต่างชาติช่วยให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงต้นปีมาที่เฉลี่ย 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.52 ซึ่งอยู่ที่ 8 พันล้านบาท/วัน
  • ธปท. รายงานยอดการให้บริการบัตรเครดิตทั้งระบบงวดสิ้นเดือนมิ.ย.52 พบว่า ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมทั้งระบบมีทั้งสิ้น 7.46 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 4,532 ลบ. หรือ 6.47% จากเดือนก่อนหน้าที่มียอดใช้จ่ายแค่ 7.01 หมื่นลบ.
  • ธปท.ขอดูผลการผ่อนคลายมาตรการสกัดบาทแข็ง 2-3 เดือนก่อนตัดสินใจออกมาตรการใหม่ เผยตลาดอยู่ระหว่างปรับตัว ยอมรับบาทยังคงผันผวนตามดอลลาร์อยู่
  • รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม จะเสนอให้ที่ประชุมครม.วันที่ 11 ส.ค.นี้ พิจารณาปรับลดวงเงินการก่อสร้างงานในสัญญาที่ 6 ซึ่งงานด้านระบบรางและยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนการประมูลงาน ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ จากวงเงินเดิมที่ตั้งไว้ 4,077 ล้านบาท เหลือเพียง 3,638 ล้านบาท เนื่องจากผลการประกวดราคางานสัญญาที่ 1 สัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 ที่ออกมา มีราคาสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้เดิม ทำให้ส่งผลกระทบต่อวงเงินงบประมาณรวมของโครงการทั้งหมดที่ตั้งไว้อยู่ที่ 36,055 ล้านบาท ทำให้จำเป็นต้องมีการขอปรับลดงบประมาณก่อสร้างงานสัญญาที่ 6 ลงมาอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ