นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่กรุ๊ป(CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบมจ.เซาท์เทิร์นสตีล เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เซาท์เทิร์นสตีลจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น ในวันที่ 19-21 ส.ค.นี้ และคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI)ได้ในวันที่ 2 ก.ย.52
ส่วนเรื่องราคาที่จะเสนอขายหุ้น IPO จะสรุปได้ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่จะมีการเซ็นสัญญาอันเดอร์ไรต์ โดยมี บล.คันทรี่กรุ๊ป(CGS) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นอีก 3 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกอยู่
"ราคาที่จะขาย IPO จะสรุปได้ในวันเซ็นสัญญาอันเดอร์ไรท์ในวันที่ 17 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นราคาที่น่าจูงใจในการเข้าลงทุน โดยจะมีการให้ discount แก่นักลงทุนอย่างแน่นอน ซึ่งเราจะคิดราคาจากผลประกอบการงวดไตรมาส 1/52 ที่ออกมาแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ดี"นายชูพงศ์ กล่าว
ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ผลประกอบการของเซาท์เทิร์นสตีลงวดไตรมาส 1/52 มีกำไร 30 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ขณะที่มีทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาท และอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ไม่เกิน 0.5 เท่า ถือว่าต่ำมาก และหลังจากขายหุ้น IPO แล้ว D/E ก็จะลดต่ำลงไปอีก
"การเข้าตลาดฯ ของเซาท์เทิร์นสตีลในครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นมีความเสียสละมาก โดยมีความพร้อมที่จะยอมให้หุ้นทั้งหมด 140 ล้านหุ้นหรือ 100% ติดไซเรนต์ พีเรียด ซึ่งถือได้ว่าเป็น case เดียวในเมืองไทย"ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าว
บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ไปใช้ลงทุนขยายการดำเนินงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เหล็ก และใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน
เซาท์เทิร์นสตีล ประกอบธุรกิจโดยผลิตเหล็ก ประเภท เหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซี และลวดตะแกรงเหล็ก ตามขนาดมาตรฐานหรือขนาดที่ลูกค้ากำหนด และ ดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไปผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณ อื่นๆ ได้แก่ ท่อเหล็กชุบสังกะสี เหล็กฉาก เหล็ก H-Beam เหล็ก I-Beam เหล็กรางน้ำ เหล็กแผ่นลาย เหล็กม้วน และเหล็กเพลาขาว เป็นต้น หรือท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซี และลวดตะแกรงเหล็ก ที่บริษัทไม่สามารถผลิตเองได้