บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 2/52 สิ้นสุด ณ 30 มิ.ย.52 ว่า บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 77.608 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2551 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิเป็นจำนวนเงิน 28.21 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้จากการขายทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัดเป็นจำนวนเงิน 85.95 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 149.74 ล้านบาท การลดลงของรายได้จากการขายทองคำมีสืบเนื่องมาจากผลผลิตทองคำที่ลดลงจาก 8,616 ออนซ์ในไตรมาส 2/52 เหลือเพียงจำนวน 2,787 ออนซ์ ในไตรมาสเดียวกันในปีนี้
ด้วยสาเหตุต่าง ๆ หลายประการ คือการลดชั่วโมงการผลิตในระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรในระบบลอยแร่ที่จำเป็นนการแยกสินแร่ทรานซิชั่น และ การทดสอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้สูงที่สุด แหล่งแร่อ๊อกไซด์ที่นำมาใช้ในกระบวนการแต่งแร่ที่ไม่ใช่การลอยแร่ลดน้อยลง
เนื่องจากผลผลิตทองคำที่ลดลง บริษัทฯจำเป็นต้องซื้อทองคำในไตรมาสนี้เพื่อการส่งมอบตามภาระสัญญาที่มีทุกเดือน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายทองคำเพื่อหวังเก็งกำไร การซื้อจะกระทำก่อนวันส่งมอบและนำส่งให้กับธนาคารคู่สัญญาทันที
สำหรับรายได้จากการขายหินแอนดีไซด์เพิ่มขึ้นจาก 0.24 ล้านบาทในไตรมาส 2/51 เป็น 1.3 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันปีนี้ ขณะที่บริษัทฯไม่มีการผลิตและไม่มีรายได้ใดๆจากส่วนงานดีบุก เนื่องจากกำลังดำเนินการเพื่อให้บริษัทย่อยคือ บริษัท ทรัพยากรสมุทร จำกัด (SML) ซึ่งมีธุรกิจหลักคือการทำเหมืองแร่ดีบุกในทะเลได้รับประทานบัตรและสามารถเริ่มดำเนินการให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งประมาณการของกำลังการผลิตดีบุกอยู่ที่ระดับ 2,000 ตันต่อปีต่อเรือขุดหนึ่งลำ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาแร่ดีบุกและการตัดเกรดแร่ในการทำเหมือง บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสที่ 2 ในปี 2552 จำนวน 56.53 ล้านบาทลดลงเป็นเงิน 24.29 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 80.82 ล้านบาท และบริษัทฯ มีผลขาดทุนของบริษัทย่อย เป็นเงิน 64.21 ล้านบาท