นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้มีความเป็นไปได้ในทางเลวร้ายสุดของเป้าหมายที่ได้ประเมินใหม่ว่าจะติดลบ 0-3%จากปีก่อน เนื่องมาจากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจติดลบ 2.5-3.5% ในปี 52 ประกอบกับอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือของคนไทยเต็ม 100% แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการเติบโตในระดับสูงเหมือนในอดีต
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงหวังว่าจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เท่ากับปีก่อนที่จ่าย 6.30 บาท/หุ้น โดยในครึ่งปีแรกประกาศจ่ายไปแล้ว 3 บาทเท่ากับปีก่อน เพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ลงทุนในหุ้น ADVANC ที่เห็นว่าเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลในระดับสูงและจ่ายในระดับ 6.30 บาท/หุ้นมาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีแล้ว
"ยอมรับว่า worse case รายได้ที่ต่ำที่สุดปีนี้เป็นได้สูงที่จะติดลบ 3% จากปีก่อน หลังเราปรับลดเป้าหมายการเติบโต 3-5% มาเหลือติดลบ 0-3% เพราะฝ่ายบริหารได้ทำงานมาครึ่งปีแล้วและเห็นความเป็นไปได้ของการเติบโตของรายได้ว่าเป็นเรื่องยาก จากปัจจัยเศรษฐกิจที่กดดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่างหนัก"นายสมประสงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ถือว่าเอไอเอสยังมีผลประกอบการที่ใกล้เคียงกับรายอื่นๆ ซึ่งหลังจากนี้จะเน้นปรับปรุงคุณภาพและพัฒนาบริการที่จูงใจให้ลูกค้าใช้บริการของเอไอเอส มากกว่าเน้นการขยายโครงข่ายเหมือนในอดีต จึงมีการตัดงบลงทุนออกไปจำนวนมากเหลือ 1.1 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะใช้ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะไปใช้งบลงทุนจำนวนมากอีกครั้งในปีหน้าหากมีการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ตามที่คาดไว้ในช่วงต้นปี 53 ซึ่งทางเอไอเอสก็ต้องการให้การประมูล 3G เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศจะได้มีการพัฒนายิ่งขึ้น
สำหรับการลงทุนปีหน้า น่าจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ 3G ซึ่งน่าจะมีการเปิดประมูลคลื่น 3G บนคลื่น 2.1 เมกะเฮิร์ต ในส่วนที่บมจ.ทีโอที มีแนวทางจะทำบนเครือข่ายเดิมของทีโอที แต่ขณะนี้ก็ยังไม่เห็นแผนของทีโอทีว่าจะดำเนินการอย่างไร ทราบแต่เพียงว่า เตรียมนำเข้าอุปกรณ์ แต่หากมีรายละเอียดที่ชัดเจนและ ทีโอที ต้องการให้เอไอเอส เข้าไปร่วมดำเนินการ บริษัทก็พร้อมที่จะทำแต่ต้องดูรายละเอียดและเงื่อนไขด้วย
ส่วนการปรับเปลี่ยนตำแน่งผู้บริหารของบริษัทนั้น นายสมประสงค์ กล่าวว่า เชื่อว่าจะสอดคล้องกับการพัฒนาธุรกิจและเป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอส วางมากว่า 2 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารารในองค์กร แต่บริษัทยังไม่ได้ปิดโอกาสของการรับคนนอกเข้ามาทำงานที่เอไอเอส หากมีความรู้และสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมของเอไอเอส
อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ADVANC รับทราบการแต่งตั้งผู้บริหาร 3 ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.52 เป็นต้นไป เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานบริษัทฯ ได้แก่ นายวิกรม ศรีประทักษ์ ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร , นายวิเชียร เมฆตระการ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร และ นายฮุย เว็ง ชีออง ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ
นายสมประสงค์ ในฐานะกรรมการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN)กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาฟรีโฟลตหุ้น SHIN ว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องฟรีโฟลต โดยยอมเสียค่าปรับรายปีให้กับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่มีแนวทางแก้ปัญหานี้
กลุ่มชินยังคงนโยบายที่จะลงทุนในธุรกิจด้านโทรคมนาคมและมีเดียเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา หากมีโอกาสที่ดีก็พร้อมจะเข้าไปลงทุน แต่คงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่าจะสามารถสรุปได้เมื่อไหร่