น.ส.รำภา คำหอมรื่น รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.บิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) คาดปี 52 จะมีกำไรสุทธิใกเล้คียงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท จากที่คาดหมายว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะมีอัตราใกล้เคียงปีก่อนที่ 17.6% ส่วนยอดขายปีนี้คาดว่าเติบโต 5% จากปีก่อน 6.7 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งแรกปี 52 บริษัทมียอดขาย 3.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 4% จากช่วงเดีนวกันของปีก่อน
"เป้าหมายกำไรจะทำให้เติบโตมากกว่าปีที่แล้ว ต้องมียอดขายโตมากกว่า 5-6%...ภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ทำให้สินค้าอาหารเติบโตมาก แต่สินค่าไม่จำเป็น(non food) ยอดขายลดลง ทำให้ Gross Profit Margin ลดลง"น.ส.รำภา กล่าว
ส่วนในไตรมาส 3/52 มองว่ายอดขายทรงตัวจากไตรมาส 3/51 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพราะในช่วงไตรมาสนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว และช่วงต้นของเหตุการณ์แพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้คนเดินห้างน้อยลง แต่ขณะนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ยังกังวลเรื่องการเมืองที่อาจจะก่อปัญหากระทบเศรษฐกิจได้เช่นปีที่ผ่านมา
ขณะที่คาดหมายว่ายอดขายในไตรมาส 4/52 จะดีกว่าไตรมาส 4/51 ซึ่งปีก่อนยอดขายลดลงมากจากผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์สโตร์น้อยลง
น.ส.รำภา กล่าวว่า บริษัทยังมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกรายได้เติบโต 15% โดยมีอัตราเช่าพื้นที่ 95% ซึ่งส่วนนี้ช่วยเสริมธุรกิจในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
นอกจากนั้น จากการที่บริษัทได้เปิดสาขาใหม่ 12 แห่งในปีก่อนช่วยเพิ่มยอดขาย จากปกติที่ยอดขายจะเติบโตตามจีดีพีของประเทศ แต่ปีนี้บริษัทต้องระมัดระวังการลงทุนจึงเปิดเพียง 1 สาขาที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา รวมมีสาขาเพิ่มเป็น 67 สาขา
ทั้งนี้ ในปี 53 บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 3-4 แห่งได้ตามปกติ หลังจากที่เริ่มมั่นใจภาวะเศรษฐกิจว่าฟื้นตัวดีขึ้น โดยจะเน้นลงทุนสาขาในต่างจังหวัด และปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 1.5 พันล่านบาทเพื่อใช้เป็นงบซื้อที่ดินและปรับปรุงสาขา ส่วนงบปีหน้าจะพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดเข้ามาในปีนี้ ประมาณ 4 พันล้านบาท
ด้าน น.ส.จริยา จิราธวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร BIGC กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจัดโปรโมชั่น โดยมุ่งเน้นกลุยุทธ์ด้านราคา(low price)ภายใต้โครงการ "บิ๊กซีจัดให้" ที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขาย และให้ความมั่นใจกับลูกค้า รวมทั้ง ลูกค้าได้สินค้าราคาภูก
"แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะยังไม่กระเตื้องขึ้น แต่เราได้เตรียมแผนรับมือไว้อย่างดีและรอบคอบ ทำให้เราคาดหมายว่าจะมีฐานะลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากกลุ่มลูกค้าที่หันมาจับจ่ายสินค้าจากเรามากขึ้น เพราะเราสามารถบริการลูกค้าด้วยสินค้าคุณภาพระดับสูงในราคาที่ถูกสุด โดยเรายังมุ่งเน้นกลุยุทธ์ด้านราคาเป็นสำคัญ" น.ส.จริยา กล่าว
โครงการภายใต้"บิ๊กซีจัดให้"ในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ "บิ๊กซีจัดให้ ด้วยใจและรอยยิ้ม" ที่จะให้บริการที่ดี โดยตั้งป้ายราคาถูกต้อง,มั่นใจได้รับสินค้าแน่นอน, รับประกันคืนได้หากไม่พอใจ และชำระเงินไม่ต้องรอ รับรองไม่เกิน 2 คิว
"บิ๊กซีจัดให้ ช่วยครอบครัวไทยสู้วิกฤติเศรษฐกิจ" ด้วยการจัดโปรโมชั่นนำเสนอสินค้าแบรนด์ชั้นนำร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ เริ่มจากรายการ"ฟันราคา-Brand Fair"ได้เริ่มแล้วจนถึง 29 ส.ค.นี้
และ "บิ๊กซีจัดให้ บริการด้านการเงิน" โดยใช้โครงการผ่อนสั้นผ่อนยาว ที่ลูกค้าเลือกผ่อนซื้อสินค้าในอัตรา 0% ได้นานถึง 12 เดือน หรือ จะเลือกผ่อนระยะยาวได้นานถึง 48 เดือนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่ถึง 0.5%