นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีการ take profit ระยะสั้นโดยเฉพาะหุ้นน้ำมันเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอ่อนตัวลงมา 3 เหรียญฯ
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูตัวเลข GDP Growth ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มติดลบน้อยลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน yoy แต่ถ้าเทียบ qoq ไตรมาสก่อนหน้าเริ่มมีทิศทางบวกไม่ว่าจะเป็นในฝรั่งเศส เยอรมัน และฮ่องกงฟื้นเยอะมาก แม้กระทั่งญี่ปุ่น ทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นก็น่าจะทำให้น้ำมันในระยะยาวมีโอกาสยืนเหนือ 60 เหรียญฯ ได้
ทั้งนี้ ทาง ASP เพิ่งปรับ fair value ราคาน้ำมันดิบโลกจากที่ใช้ 60 เหรียญฯ มาตลอดจนถึงระยะยาวมา เป็นปีนี้ 60 เหรียญฯ ปีหน้า 75 เหรียญฯ และปี 54 เป็น 80 เหรียญฯ ก็มีการปรับขึ้นเป็นการให้มุมมองระยะยาว แต่วันนี้ก็เป็นไปได้ที่ตลาดจะปรับลงมาเพราะปัจจัยนอกจากเรื่องราคาน้ำมันลงแล้วก็มีเรื่องการเมืองด้วย ตลาดลงก็เป็นจังหวะสะสม เน้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น ภาคส่งออก
"การเมืองไม่คิดว่าจะมีผลเยอะ คงไม่วุ่นวายเพราะมีบทเรียนมาอยู่แล้ว ตลาดต่างประเทศวันนี้ก็ take profit เพราะน้ำมันลง แต่ตอนนี้เศรษฐกิจโลกก็ค่อนข้างที่จะมีการฟื้นตัวตัวเยอะ จึงมองตลาดแค้การปรับฐานระยะสั้นเท่านั้น" นางภรณี กล่าว
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,321.40 จุด ลดลง 76.79 จุด(-0.82%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,004.09 จุด ลดลง 8.64 จุด(-0.85%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,985.52 จุด ลดลง 23.83 จุด (-1.19%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 593.05 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.)ที่ 67.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ดิ่งลง 3.01 ดอลลาร์
- 3 นายแบงก์ใหญ่ออกมาประสานเสียงในทิศทางเดียวกันว่า ธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี 'น่าห่วง' เป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ โดยเพาะในกลุ่มท่องเที่ยวและส่งออกซึ่งผู้ประกอบการเองก็รู้ดีว่า หากยังนิ่งเฉยต่อไปโอกาสล้มละลายทางธุรกิจมีความเป็นได้สูงจึงเร่งพยายามวิ่งหาสภาพคล่อง ซึ่งทางการเองก็มองเห็นและพยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือเช่นกัน
- ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) หันมาจับธุรกิจเครื่องสำอาง เวชภัณฑ์ และอาหารเสริมสุขภาพจากสมุนไพรหนาตา หนุนดันให้ขึ้นแท่น 'โปรดักท์ แชมเปียน' แข่งกับโสมเกาหลี มาตรฐานจีเอ็มพียังเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่
- 'ปิดฉากประชุมเออีเอ็ม' ถกวันสุดท้าย กรอบลุ่มแม่น้ำโขง เร่งแผนผลักดันเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟคุนหมิง-สิงคโปร์ 5,000 กม. ตั้งเป้าเสร็จในปี 2558 จีนหนุนเต็มที่ ขณะที่นักธุรกิจสหรัฐยาหอมพร้อมลงทุนอาเซียน 'พรทิวา' ระบุสหรัฐสนใจลงทุนธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตธุรกิจขนส่งในไทย เล็งขอถือหุ้น 100%
- กลุ่มพลังงานไตรมาส 2 ปีนี้ กำไรทรุดกว่า 26% เครือปตท.หดกันถ้วนหน้า 'ไออาร์พีซี' กำไรลดลงมากสุดกว่า 52% ขณะที่กลุ่มถ่านหิน-โรงไฟฟ้า เติบโต้ร้อนแรง นักวิเคราะห์ชี้ผลงานดีเกินคาดหลังราคาน้ำมันดิบฟื้นประเมินครึ่งปีหลังราคาเฉลี่ยน้ำมันสูงกว่าครึ่งแรก ชูหุ้นกลุ่มน้ำมันและถ่านหินแกร่งสุด
- นายแบงก์ใหญ่เร่งปรับธุรกิจรองรับดอกเบี้ยขาขึ้น กสิกรไทยแนะภาคธุรกิจรีบฉวยจังหวะดอกเบี้ยต่ำเร่งปรับองค์กรก่อนดอกเบี้ยขาขึ้นในปี 2553 ชี้ในภาวะต่ำปรับตัวง่ายกว่า พร้อมคาดดอกเบี้ยปีหน้า อาจใกล้เคียงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ 3-5% พร้อมผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อในบางภาคธุรกิจหลังสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น ด้านกรุงศรีฯ ลุยแบงก์เอสชัวรันส์หวัง 5 ปีโตเกิน 100%
- โคโลเนียล แบงก์ จากมอนต์โกเมอรี่ รัฐอลาบามา สหรัฐฯ ได้ปิดกิจการลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และสินทรัพย์ได้ถูกขายให้กับธนาคาร BB&T ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นการล้มของแบงก์ครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว