(เพิ่มเติม) BANPU คาดปี 53 ปริมาณขายถ่านหินเติบโต 10% เป็น 22-23 ล้านตัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 17, 2009 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บ้านปู(BANPU)คาดว่าในปี 53 ปริมาณขายถ่านหินในอินโดนีเซียจะเติบโตราว 10% มาที่ 22-23 ล้านตัน จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีปริมาณขายราว 20.5 ล้านตันตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มทำสัญญาขายล่วงหน้าของปี 53 ไปแล้วราว 30%

"ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาล่วงหน้า ซึ่งไม่เร่งรีบ เพราะจาก view ของ BANPU มองว่าราคาถ่านหินน่าจะดีในช่วงต่อไป" นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี 52 คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 12% มาที่ 56,594 หมื่นล้านบาท จากปี 51 ที่มีรายได้ 50,530 ล้านบาท แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยในครึ่งปีหลังจะอ่อนตัวจากครึ่งปีแรก แต่ก็คาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีจะเป็นไปตามคาดการณ์ที่ 72 เหรียญสหรัฐ/ตันใกล้เคียงปีก่อน ซึ่งบริษัทได้ทำสัญญาขายล่วงหน้าไปถึง 90%

ส่วนปริมาณถ่านหินอีก 7% ยังไม่ได้กำหนดราคา โดยจะพิจารณาขายตามดัชนีราคาถ่านหิน และอีก 2% อยู่ระหว่างเจรจาราคา ขณะที่อีก 1% ยังไม่ได้ทำราคา

อย่างไรก็ตาม จากปริมาณขายในปีนี้ที่ 20.5 ล้านตัน โดยบริษัทได้ขายไปแล้วจำนวน 9.3 ล้านตัน เหลืออีก 11.2 ล้านตันในครึ่งปีหลัง แต่ราคาคงไม่ดีเท่าครึ่งปีแรก ทำให้ผลประกอบการก็น่าจะออกมาต่ำกว่าครึ่งปีแรกด้วย รวมทั้งการรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP จะลดลงจากครึ่งปีแรกเนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุง

"ครึ่งปีแรกรับรู้รายได้(จาก BLCP) 2,172 ล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คิดว่าครึ่งปีหลังคงจะคาดหวังตัวเลขนี้ไม่ได้ เพราะได้ใช้จำนวน ช.ม.ตามสัญญาไปแล้ว 60% ยังเหลืออีกแค่ 40% ที่จะเดินเครื่องและในเดือน ธ.ค.ก็จะปิดซ่อมบำรุงตามปกติ

...ราคาถ่านหินเฉลี่ยในครึ่งปีหลังจะมากกว่า 60 เหรียญฯ เทียบกับครึ่งปีแรกที่ 78.86 เหรียญฯ ดังนั้น รายได้จากธุรกิจถ่านหินในครึ่งปีหลังจะลดลง แม้ปริมาณจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านตัน" นายชนินท์ กล่าว

นายชนินท์ กล่าว่า แนวโน้มราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังน่าจะอ่อนตัว แต่ช่วงปลายปีน่าจะฟื้นตัวได้ ตามความต้องการใช้ถ่านหินของจีน ซึ่งในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. การใช้กระแสไฟฟ้าในจีนเป็นบวก ประกอบกับสต็อกถ่านหินในจีนที่ส่วนใหญ่ส่งไปจำหน่ายในญี่ปุ่นลดลงมาเหลือ 5 ล้านตัน จากที่เคยสูงสุดถึง 10 ล้านตันในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าช่วงฤดูหนาวราคาก็นาจะปรับเพิ่มขึ้น

นายชนินท์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนใช้งบลงทุน 208 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใช้ลงทุนไปแล้ว 97 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนงบลงทุนในแผนธุรกิจ 5 ปี (ค.ศ.2009-2013) คาดว่าภายในเดือน ก.ย.52 น่าจะกำหนดได้ หลังจากมีการทบทวนให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ประกอบกับ ทิศทางการลงทุนในแต่ละประเทศ เพราะจากสินทรัพย์แต่ละประเทศได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไม่เท่ากัน แต่ดูอินโดนีเซียมีความพร้อมสูงสุด มีการเติบโตที่ดี รวมทั้งการซื้อสินทรัพย์ใหม่เข้ามา ที่ผ่านมายังไม่ได้ทำก็จะทยอยซื้อเพิ่มเข้ามา นอกจากอินโดนีเซียแล้ว บริษัทยังจะเน้นการลงทุนในออสเตรเลียและจีนด้วย

นายชนินท์ กล่าวว่า ในเดือน ก.ย. BANPU จะเข้าร่วมประมูลสัมปทานถ่านหินแหล่งใหม่"เบอร์ราวด์โคล"ในอินโดนีเซียด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ