ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) ซึ่งเป็นสถิติที่ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 6 สัปดาปห์เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสหรัฐและญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลระลอกใหม่ว่าเศรษฐกิจโลกอาจไม่ฟื้นตัวเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นจีนยังส่งผลให้เกิดแรงเทขายทั้งในตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 186.06 จุด หรือ 2% แตะที่ 9,135.34 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 24.36 จุด หรือ 2.43% แตะที่ 979.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 54.68 จุด หรือ 2.75% แตะที่ 1,930.84 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.22 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 9 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.95 พันล้านหุ้น
โจ สลุสซี นักวิเคราะห์จากบริษัท Themis Trading LLC ในนิวยอร์กกล่าวกับเอพีว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงและมีแรงขายเข้ามาเป็นระยะ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงต้นเดือนส.ค.ลดลงสู่ 63.2 จาก 66.0 ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 68.5 โดยดัชนีร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัว 3.7%ต่อปี หรือ 0.9%ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส แต่ยังต่ำกว่ากว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงไปแล้วกว่า 14% เนื่องจากความกังวลที่ว่ายอดส่งออกและอัตราการปล่อยกู้ในจีนจะหดตัวลง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนกำลังอยู่ในภาวะ overvalue เนื่องจากเกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ โดยตลาดหุ้นจีนดิ่งลงรุนแรงเกินไปในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนจะยังไม่ใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคารกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. วันพุธกระทรวงพลังงานจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจประจำเดือนส.ค. และวันศุกร์สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ค.
หุ้นโลว์สร่วงลง 10.3% เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดค้าปลีกที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว