(เพิ่มเติม) ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ของ SCC ที่ A(tha) แนวโน้มมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 18, 2009 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ให้อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวภายในประเทศของหุ้นกู้บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ครั้งที่ 2/2552 วงเงินไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาทที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2556 ที่ 'A(tha)' และให้แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตของ SCC (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’) สะท้อนให้เห็นถึงการที่บริษัทมีการกระจายตัวของรายได้ที่ดี ความเป็นผู้นำทางด้านส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจหลัก เครือข่ายการตลาดที่กว้างขวางและชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในกลุ่มลูกค้าในประเทศ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทเพื่อขยายกำลังการผลิตซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นในปี2552 โดยแม้ว่าบริษัทได้มีการเลื่อนการลงทุนในบางโครงการออกไปแล้ว SCC ยังคงแผนการลงทุนอยู่ในระดับสูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาทในช่วงระหว่างปี 2552 ถึงปี 2553 นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการในภูมิภาคแทนการลงทุนสร้างโครงการใหม่ด้วยตัวเองซึ่งต้องใช้เวลาในการก่อสร้างและดำเนินงานเพื่อสร้างกระแสเงินสด โดยบริษัทกำลังอยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อกิจการซึ่งยังไม่ได้ถูกรวมอยู่ในแผนการลงทุนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ปัจจัยความเสี่ยงอื่นของบริษัทยังรวมถึงผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกระทบต่อรายได้จากการส่งออก และความเสี่ยงจากการดำเนินการก่อสร้าง (Execution Risk) ในส่วนของการลงทุนใหม่

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ผลประกอบการของ SCC แข็งแกร่งกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (รวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) (EBITDAR) อยู่ที่ 2.26 หมื่นล้านบาท ลดลงเพียงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.8 ขณะเดียวกันอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (ไม่รวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) ต่อรายได้ (EBITDAR margin) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 18 จากร้อยละ 13 ในครึ่งแรกของปี2551 โดยเป็นผลมาจากโครงการลดต้นทุนการผลิตและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในส่วนของธุรกิจกระดาษและธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ในขณะเดียวกันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (รวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) (Net Adjusted Debt to Last-twelve-month EBITDAR) ที่แข็งแกร่งกว่าที่ฟิทช์ได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อย สภาพคล่องทางการเงินของ SCC ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่สภาวะการดำเนินธุรกิจมีความยากลำบากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเงินสดคงเหลือที่ 2.9 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่สองปี2552 และความสามารถในการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ในประเทศ

แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจหลักของ SCC และระดับของกระแสเงินสดจากการดำเนินการที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งน่าจะช่วยรักษาสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินของ SCC ให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันได้ในระยะปานกลาง ฟิทช์กล่าวว่าการลดลงของอัตราส่วนกำไรต่อรายได้และระดับของหนี้สินสุทธิที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตของSCCได้ ในทางตรงกันข้ามความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งซึ่งส่งผลให้ระดับของอัตราส่วนหนี้สินปรับลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตของ SCC



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ