บลจ.ธนชาต เตรียมออก FIF 2-3 กองทุนใน H2/52 ดัน AUM แตะ 1 แสนลบ.สิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 18, 2009 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะออกกองทุนใหม่ 2-3 กองในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะเน้นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ(FIF)เนื่องจากมองว่าให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

บริษัทคาดว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ณ สิ้นปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 9.7 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์ของกองทุนที่ลงทุนในหุ้น 1.4 หมื่นล้านบาท, กองทุนที่ลงทุนใน money market 4.2 หมื่นล้านบาท, กองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ 1.5 หมื่นล้านบาท, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 4 พันล้านบาท, กองทุนส่วนบุคคล 8 พันล้านบาท และกองทุนอื่น ๆ

"ในจังหวะนี้ บลจ.เราให้น้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในสินทรัพย์อื่น ๆ นอกเหนือจากสินทรัพย์ที่ไม่เสี่ยง เช่น การฝากเงิน เพราะตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ทุกคนมองวิกฤตเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ว่าจะฟื้นเร็วหรือช้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงจะให้ผลตอบแทนที่ดี และยังเป็นการกระจายการลงทุนด้วย" นายบุญชัย กล่าว

นายบุญชัย กล่าวต่อว่า ช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือ ญี่ปุ่นที่จะเริ่มกลับมาบวก จากการที่แต่ละประเทศมีมาตรการออกมากระตุ้นทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา แต่ในระยะยาวการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคงจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะความไม่สมดุลของโลกยังมีอยู่ โดยเฉพาะจาการบริโภคที่เกินตัว รวมถึงภาระหนี้ของรัฐบาลที่อาจส่งผลให้ดอกเบี้ยตึงตัว

ขณะที่มองว่าจีนน่าจะเป็นประเทศที่สามารถผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจได้ และทำให้เศรษฐกิจในแถบเอเชียมีความน่าสนใจ เห็นได้จากเม็ดเงินของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนทำให้สภาพคล่องยังมีอยู่มาก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะชะลอลงไปบ้าง เนื่องจากจีนได้มีการควบคุมสินเชื่อในบางธุรกิจ หลังจากมีความร้อนแรงในช่วงครึ่งปีแรก

สำหรับตลาดหุ้นไทยประเมินว่าจากนี้จนถึงสิ้นปี ดัชนี SET จะอยู่ในระดับ 600-700 จุด ภายใต้ค่า P/E ที่ 12-13 เท่า กำไรบริษัทจดทะเบียน 20-25% ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวน แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีในไตรมาส 2/52 ในส่วนของบริษัทจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตาม จะต้องระมัดระวังเพราะ P/E ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า Earning


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ