ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 61.22 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 20, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานจะยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจสหรัฐยังอ่อนแออยู่ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 61.22 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 9,279.16 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.79 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 996.46 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.32 จุด หรือ 0.68% แตะที่ 1,969.24 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 988 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.99 พันล้านหุ้น

ไบรอัน นิค นักวิเคราะห์จากบริษัท Barclays Wealth กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกที่ตลาดหุ้นจีนดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในสัปดาห์นี้ด้วย แต่ในช่วงบ่ายดาวโจนส์เริ่มดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ร่วงลงมากกว่า 8 ล้านบาร์เรล ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าดีมานด์พลังงานยังคงแข็งแกร่งแม้สหรัฐยังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอก็ตาม

การร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ และช่วยหนุนหุ้นเอ็กซอน โมบิลปิดพุ่ง 2.3% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ปิดบวก 1.8% ขณะที่ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 1.9%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าตลาดการเงินทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นในระยะใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงในอัตรา 1% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่หดตัวรุนแรง 6.4%ต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐกำลังบรรเทาลง และอัตราการว่างงานประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 9.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน สวนทางกับการคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 9.6%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจประจำเดือนส.ค. และวันศุกร์สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูความเคลื่อนไหวของบริษัทบัตรเครดิตหลังจากรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายใหม่สำหรับบริษัทบัตรเครดิต โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตือนบริษัทบัตรเดรดิตว่ารัฐบาลจะใช้กฎข้อบังคับฉบับใหม่เพื่อตรวจสอบและปกป้องผู้บริโภคจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ยุติธรรม อีกทั้งเตือนว่าหากบริษัทใดดำเนินการอย่างไม่ถูกต้องก็จะต้องถูกเปรียบเทียบปรับและถูกลงโทษ

หุ้นเมิร์กแอนด์โค พุ่งขึ้น 2.5% ส่วนหุ้นฮิวเล็ตแพคการ์ดปิดลบ 13 เซนต์ แตะที่ 43.83 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลง 19% ในไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ