เมอร์ริลลินช์เชื่อหุ้นจีนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งและภาวะตลาดหมีจะสิ้นสุดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 20, 2009 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เมอร์ริล ลินช์ คาดว่า หุ้นของบริษัทจีนจะดีดตัวขึ้น หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนนี้ ซึ่งสาเหตุที่คาดว่าจะทำให้หุ้นของจีนดีดตัวขึ้นนั้นมาจากแนวโน้มการรายงานตัวเลขรายได้ของบริษัทที่คาดว่า จะสูงกว่าการคาดการณ์ รวมทั้งกลุ่มผู้บริหารระดับนโยบายก็มีแนวโน้มที่จะคงระดับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเอาไว้

ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงถึง 4.3% แตะ 2,785.58 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งร่วงลงมา 19.8% จากระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. และยังอยู่ใกล้กับจุดเริ่มต้นของระดับตลาดหมี โดยมีหุ้นประมาณ 10 รายการที่ร่วงลงและปรับตัวขึ้น หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขรายได้ที่ไม่น่าพอใจและความกังวลว่า รัฐบาลจีนอาจจะหาทางกำจัดการคาดการณ์เรื่องอสังหาริมทรัพย์

บลูมเบิร์กรายงานว่า เดวิด คูอี นักวิเคราะห์เกี่ยวกับจีนของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า ตอนนี้ผมไม่คิดว่าจะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกของผมก็คือ รายได้จะปรับตัวขึ้น และเราคงจะได้เห็นการปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้กัน ขณะที่นโยบายการเงินของรัฐบาลก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

โดยมุมมองของคูอีนั้นสอดคล้องกับยูรี แลนเดสแมน ผู้จัดการกองทุนสหรัฐของไอเอ็นจี อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์ และเซนทิเนล แอสเส็ท เมเนจเมนท์ ซึ่งชี้ว่า การเทขายหุ้นจะไม่ทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในตลาดจีนลง

แลนเดสแมนกล่าวต่อไปว่า ตอนนี้หากจะมีการขอคำแนะนำก็คงต้องแนะนำให้ซื้อ ตลาดหุ้นจีนมักจะมีความผันผวน และตลาดก็เป็นแบบนี้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีหุ้นจีนปรับตัวขึ้นสูงสุดในบรรดาตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 4 ส.ค. ซึ่งสูงขึ้นกว่า 2 เท่าจากระดับพ.ย. โดยราคาหุ้นทะยานขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจันได้นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์มาใช้ ขณะที่ธนาคารก็ปล่อยสินเชื่อสูงเป็นประวัติการณ์ช่วงครึ่งปีแรก

แต่ดัชนีได้ร่วงลงในเดือนนี้ หลังจากที่ยอดการปล่อยสินเชื่อครั้งใหม่ในเดือนก.ค.ร่วงลงต่ำกว่าระดับเดือนมิ.ย. และการขาดทุนของบริษัท ยูนนาน คอปเปอร์ อินดัสทรี และหม่านชาน ไอรอน แอนด์ สตีล ก็ทำให้เกิดความกังวลเรื่องรายได้ถดถอยอีกครั้ง

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นที่คึกคักก็มีส่วนหนุนหน่วยงานกำกับดูแลหุ้นให้เปิดทางให้มีการซื้อขายหุ้นไอพีโออีกครั้ง หลังจากที่สั่งห้ามการซื้อขายไปเป็นเวลา 9 เดือน

ทางด้านโจนาธาน การ์เนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดเกิดใหม่และเอเชียของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดร่วงลงคือ การเปิดซื้อขายหุ้นไอพีโอของบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ป เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และทำให้สภาพคล่องในตลาดรองเหือดหาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ