(เพิ่มเติม) EGCO คาด H2/52 รายได้-กำไรน้อยกว่า H1/52, กำไรปี 53 ลดลงต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 20, 2009 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)คาดว่ารายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรก โดยคาดว่ากำไรจะต่ำกว่า 4.64 พันล้านบาทในครึ่งปีแรก ทั้งปี 52 กำไรก็จะต่ำกวาปีก่อนที่มีกำไร 6.9 พันล้านบาท และในปี 53 คาดว่ากำไรจะลดลงมาสู่ระดับ 5 พันล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้า BLCP จะมีกำไรลดลงเฉลี่ยปีละ 10% ขณะที่โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าระยองก็ปรับลดลงเช่นกัน

"ปี 53 เราคิดว่ากำไรจะอยู่ในระดับ 5 พันล้านบาทบวก/ลบ และจะอยู่ไปอย่างนี้อีก 4-5 ปี เนื่องจากโปรแกรมขายไฟและความพร้อมในการจ่ายไฟลดลง"นายวินิจ แตงน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน ธ.ค.52 รวมทั้งโรงไฟ้ฟาเควซอนในฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 จะทำกำไรได้ แต่ยังไม่มากพอที่จะเข้ามาชดเชยกับกำไรที่หายไป โดยคาดว่าโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 จะทำรายได้ในปีหน้าประมาณ 500 ล้านบาท โดยรายได้และกำไรของโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะทรงตัวต่อเนื่อง

อนึ่ง EGCO ถือหุ้น 50% ใน BLCP , ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าขนอม 100% และ ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าระยอง 100% ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 EGCO ถือหุ้น 25%, ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเควซอน 26% และ ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าแก่งคอย 50%

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/52 โรงไฟฟ้า BLCP จะมีรายได้และกำไรลดลงมากจากไตรมาส 2/52 เพราะได้ขายไฟฟ้าล่วงหน้าไปในไตรมาส 2/52 ค่อนข้างมาก และอาจทำให้รายได้ในไตรมาส 4/52 ติดลบ และยังมีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ส่วนโรงไฟฟ้าระยอง คาดว่าปีนี้ยังมีกำไรใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.5 พันล้านบาท แต่จะลดลงมากในปีหน้า สำหรับโรงไฟฟ้าขนอมในปีนี้จะมีกำไรลดลงครึ่งหนึ่งจากปีก่อนที่มี 944 ล้านบาทและจะทรงตัวในปีหน้า

นายวินิจ กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังคงหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าเควซอนเพิ่มเติมอีกนั้น ขณะนี้คู่แข่งที่ต้องการเข้ามาซื้อหุ้นเช่นกัน และยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน

"การขยายงานในต่างประเทศ ไม่ใช่เข้าไปแข่งขันกันมาก แต่ต้องมีผลตอบแทนและเป็นขนาดที่ไม่เกินตัวของ EGCO มี Good Partner และเรายังคงเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก"นายวินิจ กล่าว

ขณะเดียวกัน โครงการผลิตพลังงานลม กำลังผลิต 13.5 เมกะวัตต์ และพลังงานแสงอาทิตย์(Solar) ขนาด 8 เมกะวัตต์ โดยแต่ละโครงการคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท รวม 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มลงทุนในปีหน้า คาดว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ได้ก่อน โดยมองพื้นที่ใน จ.ลพบุรี ขณะนี้หาทำเลและผู้รับเหมาแล้ว ส่วนโครงการพลังงานลม ได้พื้นที่ลำตะคอง จ.นครราชสีมา แต่รอผลทดสอบลมก่อนให้ครบปีก่อน ซึ่งขณะนี้ทำไปได้แล้ว 6 เดือน

*คาดปันผลระหว่างกาลไม่ต่ำกว่าปีก่อน

นายศักดา ศรีสังคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน EGCO เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าจะจ่ายได้ไม่ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่จ่ายไป 2.50 บาท/หุ้น ส่วนทั้งปี 52 บริษัทไม่น่าจะจ่ายเงินปันผลต่ำกว่าปีก่อนที่จ่าย 5.00 บาท/หุ้น หรืออาจจะใกล้เคียงกับปีก่อน โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยจ่ายเงินปันผลต่ำกว่าปีก่อน ๆ

ทั้งนี้ ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง ปัจจุบันมีเงินสดในมือ 4 พันล้านบาท และยังมีวงเงินกู้พร้อมเบิกจำนวน 4 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการติดต่อจากธนาคารเสนอให้ใช้วงเงินกู้จำนวน 1-2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นมิ.ย.52 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)0.24 เท่า นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่งรีไฟแนนซ์หนี้ 4 พันล้านบาท โดยยืดอายุหนี้จาก 3 ปี เป็น 7 ปี โดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่


แท็ก ผลิตไฟฟ้า   (EGCO)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ