นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 40 ล้านหุ้น เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
เกียรติธนาฯ จะเสนอขายหุ้นกลางเดือน ก.ย.และเข้าเทรดได้วันที่ 18 ก.ย. โดยคาดว่าจะสามารถสรุปราคาขายหุ้นไอพีโอได้ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งหากเป็นไปตามที่มีการประเมินจากมูลค่าที่ต้องการระดมทุน 150-200 ล้านบาทได้เป็นราคาไอพีโอที่ 4-5 บาท/หุ้นนั้น ก็มองว่าไม่แพงเกิน หากเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ดี
ปัจจุบัน เกียรติธนาฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเป็นทุนที่ชำระแล้ว 160 ล้านบาท การเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปในครั้งนี้รวมจำนวนทั้งสิ้น 40 ล้านหุ้น โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายธุรกิจรองรับการขยายการให้บริการขนส่งของบริษัทและบริษัทย่อย
สำหรับโครงการในอนาคต มีแผนที่จะขยายการให้บริการขนส่ง แบ่งเป็น การขยายการให้บริการขนส่งในประเทศ โดยบริษัทมีแผนการขยายการให้บริการขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตในธุรกิจดังกล่าว โดยในปี 2552 — 2553 บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานขนส่งสินค้าเชื้อเพลิง ,พลังงาน,สารเคมี และวัตถุอันตราย ให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศเพิ่มขึ้น โดยการเช่าซื้อรถหัวลากเพื่อดำเนินโครงการใหม่และใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการขยายการให้บริการโดยการขนส่งปิโตรเคมีที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จังหวัดระยอง เพื่อขยายฐานลูกค้าของบริษัทและเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าใหม่ โดยใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนและการขยายธุรกิจ
การขยายการให้บริการขนส่งต่างประเทศ โดยในปี 2552 บริษัทได้เริ่มขยายการให้บริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ โดยให้บริการขนส่งสินค้าและสารเคมีต่างๆ จากประเทศไทยไปประเทศเพื่อนบ้านสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยังมีศักยภาพในการจัดหาสารเคมีและบรรจุภัณฑ์สารเคมีด้วย ซึ่งบริษัทมีแผนการใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการขยายธุรกิจ
นายเกียรติชัย คาดว่า ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะทำได้สูงกว่าครึ่งปีแรก โดยในงวด 6 เดือนแรกปี 2552 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 255.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.26 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 60.87 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 23.79 โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ร้อยละ 347.17 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้านนายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า คาดว่าบมจ.เกียรติธนาฯ จะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในไตรมาส 3/2552
บมจ.เกียรติธนาฯ ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้ให้บริการบริหารงานขนส่งสารเคมีอันตรายและผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงและพลังงาน รวมถึงวัตถุดิบอุตสาหกรรม และการให้บริการจัดเก็บและกระจายสินค้า
ขณะนี้บล.ฟิลลิป มีดีลลูกค้าไอพีโออยู่ในมือ 4-5 ดีลคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 53 โดยแบ่งเป็นเข้าตลาด เอ็ม เอ ไอ 50% และ ตลาดหลักทรัพย์ SET 50% ได้แก่ ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สื่อสาร อุตสาหกรรม เกษตร และ ธุรกิจบริการ