นายเย็บ ซู ชวน อาปิโก ไฮเทค (AH) เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่ายอดขายในครึ่งปีหลัง จะปรับเพิ่มขึ้น 30% จากครึ่งปีแรกที่มียอดขาย 3,019 ล้านบาท เนื่องจากการกลับมาของการสั่งวื้อสินค้าทั้งจากลูกค้าเดิม เช่น โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ รวมทั้งยังมีคำสั่งซื้อในการผลิตให้กัรถยนต์ขนาดเล็ก (B-car) ของค่ายฟอร์ดและมาสด้า ซึ่งจะเริ่มผลิตก.ย.นี้ นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากอีโค-คาร์เข้ามาสนับสนุนยอดขายในครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปปี 53
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายในครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่คงไม่สามารถทำให้รายได้และกำไรทั้งปีปรับตัวดีได้ เพราะในครึ่งปีแรกภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอุตสาหกรรมโดยรวมของการผลิตรถยนต์ Drop ลงอย่างมาก ทำให้รายได้ของบริษัทปีนี้น่าจะยังลดลง 25-30% หรือมาอยู่ที่ 7 พันกว่าล้านบาท จากปี 51 ที่มีรายได้ 9.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่ในถังน้ำมันพลาสติก และแผนที่อิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ของบริษัท ที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรในครึ่งปีหลังที่จะกลับมาไม่ขาดทุนจากครึ่งปีแรกที่ขาดทุน 105 ล้านบาท รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย และการที่กำไรในครึ่งปีแรกขาดทุนทำให้คงไม่สามารถจ่ายปันผลระหว่างกาลจากปีก่อนที่มีการจจ่าย แต่งวดสิ้นปียังเชื่อว่าจะสามารถจ่ายได้ และจากแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เริ่มกลับมาฟื้นและออเดอร์ที่เข้ามา บริษัทจึงมองว่าปีหน้ายอดขายน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 15-20% จากปีนี้
"ออเดอร์ในครึ่งปีหลังดีขึ้น อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศก็ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 เดือนก่อน ตอนนี้มีแต่คนพูดว่า สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ซึ่งเราก็เชื่อเช่นนั้น และอยากให้เป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องการจ่ายปันผลงวดสิ้นปีไม่อยากให้กังวลเพราะถ้ามีกำไรก็จ่ายอยู่แล้ว อย่างน้อย 10% ก็ไม่น่าจะยาก"นายเย็บ กล่าว