นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE)เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตทั้งในส่วนรายได้และกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในไตรมาส 3/52 จะมีอัตราการเติบโตของกำไรแบบก้าวกระโดด จากไตรมาส 2/52 ที่มีกำไร 22.44 ล้านบาท เนื่องจากมีการบันทึกกำไรพิเศษก่อนหักภาษีจากสาลี่ พรินท์ติ้ง ที่จะบันทึกเข้ามา 57 ล้านบาทในไตรมาส 3/52 จึงทำให้เชื่อว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 40.73 ล้านบาท
"ตอนนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ก็มากขึ้น และเรายังได้ผลดีจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงตามราคาน้ำมัน จึงเป็นผลดีกับเราเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 ที่รายได้ของเราปรับตัวลดลงอย่างมาก" นายสาทิส กล่าว
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้จะยังคงเป้าหมายใกล้เคียงปีก่อนที่ 929 ล้านบาท หรืออาจจะขยายตัวเล็กน้อยประมาณ 5-10% เนื่องจากในไตรมาส 1/52 บริษัทได้รับผลกระทบจากธุรกิจฮาร์ดดิสก์ที่ชะลอตัวลงไปมาก
นายสาทิส กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 35-40% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 25-30% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงประมาณ 30-40% ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ในระดับ 100 เหรียญ/บาร์เรล โดยปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 70 เหรียญ/บาร์เรล
ประกอบกับบริษัท เอสซี วาโด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ SALEE ถือหุ้นในสัดส่วน 75% มีอัตราการใช้กำลังการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปีก่อนที่ใช้กำลังการผลิต 60-70% มีผลทำให้ต้นทุนลดลงด้วย
สำหรับในส่วนของบริษัท เอสซี วาโด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยนั้น ภายใต้ความต้องการชิ้นส่วนที่กลับเข้ามาในการสั่งซื้อจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์ จึงมีแผนจะซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 2 ประเภท คือ เครื่องฉีดอลูมิเนียม 2 เครื่อง เครื่องเจาะกลึงชิ้นงาน 10 เครื่อง ใช้เม็ดเงินประมาณ 25 ล้านบาท โดยมาจากเงินกู้และกระแสเงินสดของบริษัท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 5 แสนชิ้น/ปี จาก 3 แสนชิ้น/ปี คาดว่าเครื่องจักรจะเข้ามาในเดือน ก.ย. และเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/52
ในส่วนความคืบหน้าการนำหุ้นของ บมจ. สาลี่ คัลเลอร์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai นั้น คาดว่าคงเห็นในราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า