นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์(GLOBAL) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเร่งการเปิดสาขาที่ราชบุรีให้เร็วขึ้นมาในช่วงกลางเดือน พ.ย จากเดิมปลายเดือน พ.ย เพื่อให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากสาขาใหม่เข้ามาเร็วขึ้น จากนั้นในปีหน้าจเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมใน จ.นครสวรรค์ และ จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ การเติบโตเฉลี่ยในสาขาใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ขณะที่สาขาเดิมจะมีการเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณ 5-7% ต่อปี ซึ่งการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้จะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สะท้อนราคาหุ้นต่อนักลงทุนด้วย
สำหรับราคาหุ้น GLOBAL ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เข้าเทรดนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่า น่าจะเกิดจากความตกใจของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเท่าที่ดูข้อมูลพบว่า 3-4 วันแรงขายมาจากนักลงทุนรายย่อย ดังนั้น จึงอยากให้นักลงทุนพิจารณาถึงพื้นฐานของบริษัท ก็จะเข้าใจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทเติบโตอย่างสม่ำเสมอ 20-25%ต่อปี ศักยภาพทางการเงินก็แข็งแกร่ง ตลาดในประเทศยังมีศักยภาพเติบโตได้ดี
นอกจากนี้ ภายใต้ความแข็งแกร่งในเรื่องเงินทุนที่เพียงพอทั้งเม็ดเงินจากธนาคารพาณิชย์ และเงินที่บริษัทได้จากเงินระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO ทำให้บริษัทสามารถขยายสาขาได้มากขึ้นปีละ 3-4 สาขาจากเดิม 2 สาขา ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และกำไรที่มากขึ้น โดยเฉพาะการขยายสาขาที่แจ้งวัฒนะที่จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2/53 จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโต 20-25% ตามที่คาดการณ์ไว้
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/52 คาดว่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 2/52 เพราะจะมีการรับรู้รายได้ 7 สาขาเต็ม จากครึ่งปีแรกที่จะรับรู้รายได้เพียง 6 สาขา เพราะสาขาเชียงใหม่ประสบอุบัติเหตุปัญหาไฟไหม้ในช่วงต้นปีจนต้องเลื่อนเปิดให้บริการ ขณะเดียวกันจะได้รับผลดีจากการบริหารสต็อกเน้นกลยุทธ์ดึงสินค้าในสาขาที่ยอดขายน้อยมาที่สาขาที่ยอดขายดีกว่า โดยเฉลี่ยสต็อกมีจำนวนวันอยู่ที่ 112-150 วัน ยกเว้นสาขาใหม่ที่จะมีจำนวนวันประมาณ 250 วัน
"ผมอยากให้นักลงทุนรายย่อยเข้าใจถึงพื้นฐานของหุ้นที่แท้จริงกว่านี้ หุ้นเราเป็นหุ้นดีมีโอกาสเติบโตสูงมาก ดูได้จากที่เราขยายสาขาต่อเนื่อง เงินทุนเราก็มีเพียงพอตอนนี้ยังไม่ได้ใช่เลยทั้งเงินจากธนาคารพาณิชย์และเงินที่ได้จากการระดมทุน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรามีฐานทุนที่แข็งแกร่ง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว