บล.ธนชาต ระบุว่า ผู้บริหาร บมจ. ท่าอากาศยานไทย(AOT)เปิดเผยแผนการลงทุนของบริษัทฯ ในช่วง 2 ปีข้างหน้าในงานThai Corporate Day ที่สิงคโปร์และฮ่องกงว่า AOT มีแผนจะลงทุนในการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารให้ได้ถึง 65 ล้านคน จากปัจจุบัน 45 ล้านคน โดยมีต้นทุนในการลงทุนรวม 9 พันล้านบาทสำหรับปี 53-56
ขณะที่ขั้นที่สองจะลงทุนก่อสร้างอาคารจอดเครื่องบิน(Midfield concourse)ขยายอาคารผู้โดยสารที่มีอยู่ และสร้างรันเวย์ที่ 3 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 80 ล้านคน โดยต้นทุนจะอยู่ที่ 77 พันล้านบาท สำหรับปี 54-59
สำหรับปัจจัยที่จะผลักดันการเติบโตในปีหน้าของบริษัทฯ นอกจากจะคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นแล้ว มาตรการช่วยเหลือสายการบิน โดยการลดค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยานลง 20% ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.09 และ 30% ในเดือน พ.ค.-ธ.ค.09 ยังใกล้จะครบกำหนดในเดือน ธ.ค.9 อีกด้วย โดยในเดือน ม.ค.-มิ.ย.09 AOT สูญเสียรายได้เนื่องจากมาตรการดังกล่าวราว 1 พันลบ.
นอกจากนี้ AOT ยังคาดว่าจะได้รับรายได้เพิ่มเติมจาก King Power เนื่องจากการใช้พื้นที่เกินจากสัญญาอีกด้วย ส่วนประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ King Power ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว King Power ไม่เพียงแต่ดำเนินงานเป็นปกติที่ท่าอากาศยาน แต่บริษัทยังตกลงที่จะปรับเพิ่ม minimum guarantee ของสำหรับร้านค้าปลอดภาษี เนื่องจากการใช้พื้นที่ร้านค้าปลีกเกินจากสัญญา โดยจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.3-2.4 พันล้านบาท ในช่วง FY10 จาก 1.2 พันล้านบาทในปีนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ บล.ธนชาต มองว่า การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 77 พันล้านบาทน่าจะถูกเลื่อนออกไปยังปี 2013-17 อีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลกำลังเน้นในเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน และลอยฟ้า ขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศยังช่วยลดความแออัดของท่าอากาศยานได้อีกด้วย แต่เรามองว่าการเลื่อนการก่อสร้างออกไปเป็นข่าวดี เนื่องจาก AOT ไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาการบริการที่ดีที่สุดแล้ว แต่ยังสามารถสำรองเงินสดไว้สำหรับการลงทุนในอนาคตได้อีกด้วย
รวมทั้ง AOT ยังคงมี valuations ที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ P/EBITDA เพียง 4.1 เท่าในปี FY10 เทียบกับ ในอดีตที่ 7.5-9.5 เท่า