บล.ธนชาต ระบุว่า ผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) ซึ่งเข้าร่วมงาน Thai Corporate Day ที่ฮ่องกง ชี้แจงข้อมูลต่อผูจัดการกองทุนที่เข้าร่วมงานว่า รายได้ของบริษัทจะฟื้นตัวในช่วง 2H09 เนื่องจากคนไทยมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส H1N1 มากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ BGH ยังพยายามลดแรงกดดันทางด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านทางควบคุมประสิทธิภาพของพนักงาน และไม่จ้างพนักงานเพิ่ม ควบคุมค่าใช้จ่ายทางการตลาด และพัฒนาการใช้บริการ back office ร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลในกลุ่ม
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของชาวต่างชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 4.6%, UAE 4.1%, UK 3.5%, USA 2.5% และเยอรมัน 2.4% ของรายได้ผู้ป่วยรวม ตามลำดับ ขณะที่ Bed utilization อยู่ที่ 60% ในช่วง 1H09, ลดลงจาก 66% ในปี 2008 Optimal level อยู่ที่ 75% ขณะที่ที่ระดับ 80% เป็นระดับที่มีจำนวนผู้ป่วยที่หนาแน่แล้ว
สำหรับคู่แข่งหลักของบริษัทฯ คือ BH เป็นคู่แข่งในประเทศ ขณะที่ BGH มองว่าสิงคโปร์ เป็นคู่แข่งขันหลักในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม BGH มีจุดแข็งในเรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพสูง มีเครือข่ายสาขาที่ดี และมีความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ บล.ธนชาต คงคำแนะนำ “ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่ 30 บาท/หุ้น จากการที่ BGH ได้ทำการสร้างเครือข่ายสาขาเพื่อเตรียมพร้อมในการรองรับการเติบโตของประเทศในระยะยาว ทั้งในเทอมของรายได้ที่เพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ซึ่งทำประกันเพิ่มขึ้น ขณะที่ Utilization rate ที่ต่ำ แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯจะได้รับผลประโยชน์จากการมีต้นทุนคงที่ในระดับสูงในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวในขณะที่ BGH สามารถเติบโตไปได้อีกในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมากอีกด้วย BGH มีศักยภาพในการเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในระยะยาวขณะที่ยังคงซื้อขายที่ระดับ Market cap to revenue ที่ต่ำในอดีตที่ 1.2 เท่า