CPF ทุ่ม 1.53 พันลบ.ลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ-ฟาร์มสุกรในฟิลิปปินส์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 25, 2009 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดดำเนินธุรกิจ “อุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ" และ “ธุรกิจฟาร์มสุกร" ขึ้น โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นราว 1,525 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 1,400 ล้านบาทและธุรกิจสุกร 125 ล้านบาท

"บริษัทได้ลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อบริษัท CPF Philippines Corporation หลังจากได้ทดลองทำตลาดมาแล้วระยะหนึ่ง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"นายอดิเรก กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ ประกอบด้วย โรงงานผลิตอาหารกุ้งในเมืองซีบู (CEBU) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจเขตหนึ่งของฟิลิปปินส์ มีกำลังการผลิต 30,000 ตันต่อปี ขณะที่โรงงานอาหารปลา ขนาดกำลังการผลิต 60,000 ตันต่อปี จะตั้งขึ้น ณ เกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 53

ส่วนธุรกิจฟาร์มสุกรนั้นจะดำเนินโครงการฟาร์มสุกรระดับทวดพันธุ์ (GGP) และปู่ย่าพันธุ์ (GP) ขนาด 1,200 แม่ รวมถึงฟาร์มสุกรรุ่นพันธุ์ CP ขนาด 10,400 ตัว ที่เกาะลูซอน

"โอกาสและศักยภาพการดำเนินธุรกิจในฟิลิปปินส์นั้นค่อนข้างดีมาก เพราะฟิลิปปินส์มีประชากรเกือบ 92 ล้านคนและมีอัตราการเกิดเฉลี่ย 2% ต่อปีนับว่าค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันอัตราการบริโภคสุกรของคนฟิลิปปินส์ก็อยู่ที่ 15 กก.ต่อคนต่อปี สูงกว่าคนไทยที่บริโภคเพียง 13 กก.ต่อคนต่อปี นอกจากนี้ มาตรฐานการผลิตเนื้อสุกร ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตของซีพีเอฟนั้นเป็นที่ยอมรับในระดับโลก" นายอดิเรก กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 52 คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ทำรายได้ถึง 75,393 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 3,964 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรายงานผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจการที่ลงทุนในต่างประเทศ การส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปแบรนด์ซีพี และการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้ง ยังคงมีแนวโน้มที่ดี

นอกจากนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ประกอบกับการบริหารด้านการเงิน ก็ช่วยส่งผลให้มีต้นทุนด้านการเงินที่ลดลง และคาดว่าผลการดำเนินการต่างๆนี้ จะยังคงส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 53 ยังคงยืนอยู่บนพื้นฐานการทำกำไรที่มั่นคงกว่าในอดีตที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะมีกำไรจากการดำเนินงานดีต่อเนื่องจากปี 52 นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ