ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 655.44 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด(+0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 17,535 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 657.05 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 648.10 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 228 หลักทรัพย์ ลดลง 108 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 113 หลักทรัพย์
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายรีบาวน์ขึ้นมาขณะที่ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ลงไปติดลบเยอะๆก็รีบาวน์ขึ้นมาเช่นกันเพราะดาวโจนส์ฟิวเจอร์สรีบาวน์ขึ้นมาช่วงเช้าและ S&P ฟิวเจอร์สก็กลับขึ้นมาบวกได้เป็น sentiment ในเชิงบวกว่าดาวโจนส์คืนนี้จะปิดเป็นบวกหรือไม่
ราคาน้ำมีนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ หุ้นกลุ่มพลังงานเราก็ยังสามารถที่จะนำตลาดได้ประกอบกับหุ้นที่จะจ่ายปันผลอันใกล้นี้เริ่มมีการเก็งกำไรกันขึ้นมา จะเห็นหุ้นขนาดเล็กก็พอขยับกันขึ้นมาช่วยให้ตลาดสามารถที่จะยืนได้
ทิศทางพรุ่งนี้แนวโน้มน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบของ high เดิม 657 และ 650 จุด แต่คิดว่าเป็นการแกว่งเพื่อรอขึ้น ช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นที่มีจ่ายปันผลในระดับที่สูงๆ หรือบริษัทที่ยังไม่ประกาศจ่ายปันผลเลย เช่น ESSO TVO น่าจะเป็น target ในการเข้าไปลงทุนอยู่และหุ้นในกลุ่มที่น่าจะเป็น V-Shaped Recovery เช่น โรงแรม ที่มองว่าน่าจะฟื้นตัวแบบ V-Shaped สวนทางกับเศรษฐกิจที่จะเป็นแบบ U shape ส่วนหุ้นน้ำมันคงขึ้นไปได้แต่ถ้าถามว่าจะเก็งกำไรก็ต้องเป็นกลุ่มที่มี story แรงกว่ากลุ่มน้ำมัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,449.52 ล้านบาท ปิดที่ 247.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 795.48 ล้านบาท ปิดที่ 23.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 660.38 ล้านบาท ปิดที่ 76.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 589.31 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
THAI มูลค่าการซื้อขาย 570.41 ล้านบาท ปิดที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท