ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกสมัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.01 จุดหรือ 0.32% แตะที่ 9,539.29 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.43 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,028.00 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.25 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 2,024.23 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.14 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.95 พันล้านหุ้น
ไบรอัน ดาลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์คอนิเฟอร์ในนิวยอร์ กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนขานรับการตัดสินใจของโอบามาที่เสนอชื่อเบอร์นันเก้ให้เป็นประธานเฟดต่ออีกสมัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด และ S&P/Case-Shiller เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.
พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 กล่าวแสดงความเห็นว่า เบอร์นันเก้สมควรได้รับการไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นประธานเฟดต่อเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากเบอร์นันเก้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงิน
ด้านนายคริสโตเฟอร์ ด็อด ประธานคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโอบามาประกาศเสนอชื่อเบอร์นันเก้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดอีกสมัย ถือเป็นทางเลือกที่ถูก และเป็นการส่งสัญญาณด้านบวกต่อตลาด
หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นปิดในแดนบวก อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภคร่วลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
"อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดได้ช่วยหนุนดาวโจนส์ปิดบวก แต่ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งความกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายและส่งผลสกัดช่วงขาขึ้นของดาวโจนส์" ดาลีย์กล่าว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตันปิดร่วง 3% หุ้น Chesapeake Energy ปิดร่วง 2.5% แต่หุ้นกลุ่มสร้างบ้านดีดตัวขึ้น โดยหุ้นฮอฟนาเนียน เอนเตอร์ไพรซ์ ปิดพุ่ง 6.5% และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ปิดบวก 2.8% ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาปิดบวก 2.3%