บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ระบุว่า ใช้เงินลงทุน 25 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% ของบริษัท แฟมิลี่ โนฮาว ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินการผลิตสื่อเป็นช่องข่าวตลาดทุนให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านทางช่อง""มันนี่ชาแนล" โดยเบื้องต้นตั้งเป้าจะเพิ่มชั่วโมงการออกอากาศอีก 10 ชม.
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าบริหารช่อง"Money Channel" โดยการเข้าลงทุนถือหุ้น 50% บริษัท แฟมิลี่ โนฮาว จำกัด คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 25 ล้านบาทโดยมีแผนจะเพิ่มระยะเวลาการออกอากาศอีก 10 ชั่วโมง จากเดิมที่มีการออกอากาศประมาณ 8 ชั่วโมง โดยเน้นรูปแบบของรายการเศรษฐกิจ ตลาดเงินตลาดทุน คาดหวังว่าในอนาคตธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างกำไรให้แก่บริษัท
"เราคาดหวังที่จะทำกำไรจากการผลิตรายการในช่วง 10 ชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งตอนนี้ได้จัดเตรียมรูปแบบรายการครบทั้ง 365 วันแล้ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2 เดือนกระบวนการทางการทำงานก็จะเสร็จสมบูรณ์"นายสุเมธ กล่าว
นอกจาก GRAMMY จะเข้าถือหุ้น 50% ยังจะส่งตนเองเข้ามาร่วมบริหารด้วยในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าทั้งรายได้และกำไร จะทรงตัวจากปีก่อน แม้หากเทียบผลการดำเนินการในช่วงครึ่งแรกของปี 52 จะดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อนก็ตาม
"คาดว่าผลประกอบการธุรกิจปี 52 น่าจะทรงตัวจากปีก่อนทั้งรายได้และกำไร แม้ว่าจะทำผลงานในช่วงครึ่งปีแรกดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ก็ตาม เนื่องจากในครึ่งปีหลังของปีนี้ไม่มั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า แต่ทางบริษัทก็จะพยายามทำให้ได้ผลประกอบการในครึ่งปีหลังออกมาใกล้เคียงกับครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว"
ปี 51 GRAMMY มีรายได้ 7,834 ล้านบาท กำไรทำได้ 705 ล้านบาท
ส่วน Net Margin จะพยายามรักษาตัวเลข 2 Digits โดยครึ่งปีแรกบริษัทมี Net Margin 10%
ทั้งนี้ รายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจเพลงดิจิตอล ซึ่งคาดว่าจำนวนสมาชิกน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านคน จาก 2.2 ล้านคนในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจโชว์บิซและอีเว้นท์ซึ่งปีนี้ค่อนข้างโดดเด่นเพราะมีการจัดโชว์มากขึ้น แตเมื่อเทียบกันในเรื่องของสถานที่จัดการแสดงซึ่งปีนี้หลายๆโชว์หลายๆการแสดงจัดขึ้นในสถานที่ที่เล็กลง เช่น เซ็นเตอร์พอยท์ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน จากก่อนหน้านี้ที่ส่วนใหญ่มักจะจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งมีความจุที่นั่งแตกต่างกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในส่วนของธุรกิจอีเว้นท์ปีนี้ไว้ที่ 1,788 ล้านบาท เติบโตประมาณ 45% จาก 1,226 ล้านบาทในปีก่อน โดยขณะนี้ธุรกิจอีเว้นท์มี Backlog ทั้งงานภาครัฐและเอกชน แต่ที่เป็นไฮไลท์ และจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ คือ Thailand Pavilion Wold Expo 2010 ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มูลค่างานประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งแกรมมี่จะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 180 ล้านบาท และที่เหลือจะไปรับรู้ในปี 53
ส่วนธุรกิจทีวีดาวเทียมที่แกรมมี่เปิดบริการไปแล้ว 4 ช่อง ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีรายได้จากการโฆษณาประมาณ 100 ล้านบาท และปี 53 ก็จะเปิดบริการอีก 1 ช่อง คือ BIRD Channel ตามแผน