นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA) คาดว่าในครึ่งปีหลัง จะมียอดขายที่ดินเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก ที่ขายได้ 51.29 ไร่ เนื่องจากลูกค้าเดิมที่ชะลอการเซ็นสัญญาไปก่อนหน้านี้ได้กลับเข้ามา หลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ามองหาที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัท
แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังกังวลปัจจัยเรื่องการเมือง หากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปลายสัปดาห์นี้ หากไม่มีความรุนแรงก็จะทำให้ลูกค้ากลับมา
และคาดว่าทั้งปี ยอดขายที่ดิน จะมีประมาณ 300-400 ไร่ ลดลง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขาย จำนวน 896 ไร่ โดยปัจจุบันบริษัทมี backlog 500 ล้านบาท โดยจำนวน 200 ล้านบาทจะทยอยรับรู้ในครึ่งปีหลังถึงเดือนมี.ค. 53 ส่วนอีก 300 ล้านบาท ซึ่งขายให้กับ Holly ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะรับรู้ในปีไหน
นายวิบูลย์ กล่าวยอมรับว่า ในปีนี้ สัดส่วนรายได้ที่มาจากการขายที่ดินคงน้อยกว่า รายได้จากสาธารณูปโภค ที่มีสัดส่วน 62% โดยเฉพาะน้ำ ในครึ่งปีหลัง บริษัทจะผลิตและจำหน่ายน้ำเอง จากเดิมที่ซื้อมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในนิคมฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นดีขึ้นเป็นกว่า 10% จากเดิมที่ต่ำกว่า 10% สำหรับธุรกิจน้ำ ขณะที่ มาร์จิ้นการขายที่ดิน คงอยู่ระดับเดิมที่กว่า 50%
นายวิบูลย์คาดว่า กำไรสุทธิปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.19 พันล้านบาท แต่เชื่อว่าบริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ แต่จ่ายในอัตราที่ลดลง ตามกำไรที่ปรับตัวลดลง