ตลท.ให้ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หากยังไม่ส่งงบปี 51 ภายใน 1 มี.ค.53

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 1, 2009 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศว่าหลักทรัพย์ของบมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 และยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SECC และขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2552 เพื่อกำกับไว้ให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ของบริษัท เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

เนื่องจาก ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดนโยบายการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน กรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่า 180 วันเพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเร่งปรับปรุงระบบการควบคุมภายในและระบบบัญชี รวมทั้งกระบวนการจัดทำรายงานทางการเงินอย่างมีประสิทธิผล โดยตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินล่าช้าเป็นเวลานานติดต่อกันมากกว่า 180 วัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมิฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามความในข้อ 9 (3) และ 9 (5) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 นั้น

ดังนั้นหาก SECC ไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนให้หมดไป กล่าวคือไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์ ได้ภายใน 180 วัน หรือภายในวันที่ 1 มีนาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SECC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม SECC สามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป โดยเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวโดยเร็วและไม่เกินกว่า 180 วัน นับแต่วันประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน โดย SECC สามารถขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนเมื่อ SECC สามารถส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด 2 งวดติดต่อกันภายหลังที่ได้นำส่งงบการเงินงวดที่ล่าช้า และรายงานของผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นรายงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้

ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมีข้อบกพร่องในระบบควบคุมภายในหรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป

ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน กรณีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยการกระทำหรือไม่กระทำของบริษัทหรือผู้บริหาร และ ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ