ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาภาคธนาคาร ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 185.68 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 2, 2009 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดในภาคการธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารในสหรัฐต้องปิดตัวลงเองกว่า 80 แห่งในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 185.68 จุด หรือ 1.96% แตะที่ 9,310.60 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 22.58 จุด หรือ 2.21% แตะที่ 998.04 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 40.17 จุด หรือ 2.00% แตะที่ 1,968.89 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.63 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.76 พันล้านหุ้น

ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัท Schaeffer`s Investment Research ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการธนาคารถูกจุดปะทุขึ้นมาอีกครั้งหลังจากบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) รายงานว่า ธนาคารในสหรัฐต้องปิดตัวเองลงอีก 3 แห่ง ส่งผลให้จำนวนธนาคารที่ปิดกิจการในสหรัฐปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 84 ราย และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก

FDIC ระบุว่าธนาคารที่ถูกสั่งปิดล่าสุดได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตการณ์การเงินที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยธนาคารทั้ง 3 แห่งล่าสุดได้แก่ แอฟฟินิตี้ แบงค์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย, แบรดฟอร์ด แบงค์ ในรัฐแมรีแลนด์ และเมนสตรีท แบงค์ ในรัฐมินเนโซตา โดยสินทรัพย์ 1.9 พันล้านดอลลาร์และเงินฝากมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ของธนาคารทั้ง 3 แห่งจะถูกโอนถ่ายให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ และส่งผลให้ต้นทุนการประกันเงินฝากของ FDIC เพิ่มขึ้นอีก 466 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว โดยหลักฐานล่าสุดคือดัชนีภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.9 จุดในเดือนส.ค.จาก 48.9 จุดในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 50.5 จุด และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 3.2% สู่ระดับ 97.6% ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2550

ความวิตกกังวลเรื่องปัญหาในภาคการธนาคารได้ฉุดดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 5.8% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชสร่วง 4.1% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 9..2% ส่วนหุ้นอีเบย์ร่วง 2.1% หลังบริษัทวางแผนขายหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท Skype ซึ่งเป็นธุรกิจโทรศัพท์ออนไลน์ เป็นมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ให้กับนักลงทุนเอกชน

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐจะลดลง 230,000 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงน้อยที่สุดในรอบ 1 ปี

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนจับตาดูในสัปดาห์นี้ได้แก่ ข้อมูลประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานประจำไตรมาส 2 และยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ ส่วนในวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ