นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับขึ้นต่อ ปัจจัยเนื่องจากเมื่อคืนดอลลาร์อ่อนค่ามากทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้นทั้งหมด ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่รวมถึงทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง PTTEP น่าจะเป็นตัวหลักที่ดันขึ้นไป
ส่วนการประชุมโอเปกวันนี้ก็คาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร
"วันนี้เทรดดิ้งระยะสั้นๆ เพราะเรื่องของ commodity ที่ปรับขึ้น ส่วนตลาดต่างประเทศก็บวกเล็กน้อย แต่ของไทยอาจจะได้เปรียบตรงที่มีหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เยอะ วันนี้ประเทศที่มีหุ้นโภคภัณฑ์เยอะอย่างไทย ออสเตรเลีย จะขึ้นแรง" นายสุกิจ กล่าว
กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ 690-700 จุด ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(8 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,497.34 จุด เพิ่มขึ้น 56.07 จุด(+0.59%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,025.39 จุด เพิ่มขึ้น 8.99 จุด(+0.88%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,037.77 จุด เพิ่มขึ้น 18.99 จุด (+0.94%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,177.68 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 71.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.08 ดอลลาร์
- ภาคธุรกิจ ถือเลขเสริมดวง เลข 9 มงคลเดินหน้าจัดกิจกรรม หวังให้ธุรกิจสดใส เน้นเปิดป้าย เปิดบริษัท ขณะที่ภาครัฐจัดมหกรรมเทิดพระเกียรติในหลวง ร้องเพลงสดุดีมหาราชาและสรรเสริญพระบารมีพร้อมกันทั่วประเทศ รับวันที่ 9 เดือน 9 ปี 09
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบให้ทำหนังสือแจ้งนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ขอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50
- นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า การลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระยะปานกลาง หลังจากรัฐบาลได้มีการจัดทำงบกลางปี 52 วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว ซึ่งมีความพร้อมเบิกจ่ายได้จริง และมั่นใจว่าจะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้
- ภาคอสังหาฯ ชี้แนวโน้มตลาดฟื้นตัวชัดเผยปัจจัยบวกสต็อกสินค้าเดิมเริ่มหมดเอกชนแทคทีม เรียกร้องรัฐบาลชัดเจน ต่อไม่ต่อมาตรการลดภาษี-ค่าโอน ที่จะหมดในวันที่ 28 มี.ค.2553 อ้างเหตุต้นทุนจ่อคิวปรับขึ้นอีก 7% ขณะที่ ธอส.แจงสินเชื่อบ้านพุ่งพรวด ผู้ประกอบการ 20 ราย นำโครงการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฟาสต์แทรคกว่าหมื่นยูนิต มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ฟันธงถึงสิ้นปีไม่ขึ้นดอกเบี้ย
- เจนีวา-ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและคุณภาพสถาบันเพื่อสาธารณะที่ย่ำแย่ฉุดขีดแข่งขันไทย ร่วงติดต่อกันสองปีซ้อนปีนี้รั้งอันดับที่ 36 จากอันดับที่ 34 เมื่อปี 2551 ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ครองอันดับหนึ่งประเทศที่มีขีดความสามารถด้านการแข่งขันสูงสุดของโลก
- 'นักวิชาการ' ชี้คุมหนี้สาธารณะไว้ 60% หวั่นบีบรัฐขยายฐานภาษีสูง 25% ของจีดีพีในอนาคต เผยเศรษฐกิจไทยฟื้นได้ด้วยตัวเอง ระบุแผนไทยเข้มแข็งแค่ปัจจัยเสริมและโครงการลงทุนส่วนใหญ่ไม่คุ้มค่าลงทุนด้าน 'สติ
- ข้าราชการคลัง พอใจหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติตั้งคนรุ่นใหม่คุมคลัง 'กรณ์' ระบุ เพื่อเป็นการวางรากฐานการบริหารงานในอนาคตเชื่อในความสามารถผลักดันให้เกิดผลงานเชิงบวก ส่งสัญญาณการเมืองไม่แทรกแซงการทำงาน ดัน 'สมชัย' คุมกรมศุลกากร เพื่อสร้างความโปร่งใสในองค์กร ส่วน 'อารีพงศ์' คุมสรรพสามิตดูแลให้ระบบภาษีถูกต้องเป็นธรรม ด้าน 'พงษ์ภาณุ' นั่งเก้าอี้กรมบัญชีกลางดูแลเบิกจ่ายไทยเข้มแข็งให้ได้ 100%
- โกลด์แมน แซคส์ วิเคราะห์ ธปท.ห่วงอุปสงค์ในประเทศพื้นตัวเปราะบาง ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดปี 2553 สวนทางเพื่อนบ้านเริ่มทยอยปรับขึ้นระบุอินโดนีเซียจะเป็นชาติแรกในอาเซียนขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ไตรมาสแรกปีหน้าถือเป็นความพยายามใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินมากขึ้น หลังเศรษฐกิจภูมิภาคอยู่บนเส้นทางฟื้นตัวสู่ความมีเสถียรภาพ
- ธปท.เล็งออกพันธบัตรเพิ่มหลังยอดขายครั้งแรกถล่มทลาย 130,685 ล้านบาท พร้อมรอจังหวะปรับโครงสร้างดูดสภาพคล่องระยะยาวชี้สภาพคล่องระยะนี้อาจลดลงบ้างจากรัฐบาลเร่งตุนเงินไทยเข้มแข็ง 8 หมื่นล้าน
- น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า เสถียรภาพการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะฉุดเศรษฐกิจเติบโตไม่ได้เต็มที่และฟื้นตัวน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่โครงการไทยเข้มแข็ง 2 แม้มีมูลค่าลงทุนมหาศาล แต่เป็นโครงการนาน 3 ปี ต้องผ่านหลายขั้นตอน ทั้งประมูล จัดทำรายละเอียดโครงการ กินเวลากว่าจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ราคาทองคำพุ่งถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เป็นสัญญาณว่านักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับความยั่งยืนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกขณะเดียวกันหุ้นเอเชียแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี แม้ว่าจะไร้ทิศทางจากตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนหุ้นตลาดเกิดใหม่สู่ระดับที่เคยเห็นก่อนเลห์แมนล้ม