ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขานรับรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจในประเทศมีเสถียรภาพ โดยหุ้นอุตสาหกรรมและกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนดาวโจนส์ปิดในแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 49.88 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 9,547.22 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 7.98 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 1,033.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 22.62 จุด หรือ 1.11% แตะที่ 2,060.39 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.24 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 21 ต่อ 8 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.51 พันล้านหุ้น
แมท ลอยด์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Advisors Asset Management กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานของเฟดสาขาระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐมีเสถียรภาพ ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็ฟื้นตัวขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่ ของรัฐบาลสหรัฐ
"อย่างไรก็ตาม รายงานของเฟดเตือนว่า กว่า 70% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐต้องพึ่งพาตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวอ่อนแอก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงด้วย รายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเพราะขณะนี้รัฐบาลได้ยุติการใช้โครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่แล้ว" ลอยด์กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเมื่อเฟดรายงานว่า อัตราการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ค.ดิ่งหนักเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัวลง เนื่องจากธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตเพิ่มความเข้มงวดในการออกเงินกู้ ขณะที่ภาคครัวเรือนมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ลดลง
โดยอัตราการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคในเดือนก.ค.ปรับตัวลดลง 10% ต่อปี แตะที่ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 5 เท่า และทำสถิติทรุดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่สินเชื่อผู้บริโภคสำหรับผ่อนรถและบ้านที่ไม่ใช้สินเชื่อหมุนเวียนปรับตัวลดลง 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. และสินเชื่ออื่นๆ รวมถึงบัตรเครดิต ตกลง 6.1 พันล้านดอลลาร์
ไรอัน สวีท นักวิเคราะห์จาก Moody’s Economy.com กล่าวว่า "ผู้บริโภคปรับลดการใช้จ่ายและจัดระเบียบวินัยทางการเงิน นอกจกานี้ พวกเขายังคงใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังในช่วงที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะถดถอย นอกจากนี้ การเปิดตัวโครงการนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ ที่เริ่มต้นในช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมายังไม่เพียงพอที่จะรักษาอัตราการปล่อยสินเชื่อเพื่อรถยนต์ให้ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ได้เช่นกัน
หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ดีดตัวขึ้น 3.1% หุ้นโบอิ้งปิดบวก 2.1% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริกปิดพุ่ง 2.6% ส่วนหุ้นเท็กซ์ตรอน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน ปิดบวก 2.4% หลังจากบริษัทคงตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรปี 2552